อุดรธานี-บิ๊กยงนำทีมสืบภาค 4 รวบแก๊งโอรส ตุ๋น 10 ล้าน ขายปุ๋ย ทั่วอีสาน

อุดรธานี-บิ๊กยงนำทีมสืบภาค 4 รวบแก๊งโอรส ตุ๋น 10 ล้าน ขายปุ๋ย ทั่วอีสาน

ภาพ/ข่าว:พฤตินัย มั่งสวัสดิ์,ทีมข่าวภูมิภาคจังหวัดอุดรธานี
                 ,ทีมข่าวตำรวจภูธรภาค 4 ขอนแก่น

                  เตือนภัย.!!..บิ๊กยง นำทีมสืบภาค 4 รวบแก๊งโอรส ตุ๋น 10 ล้าน โกงชาวไร่ ชาวนา ขายปุ๋ย ทั่วอีสาน

                      เตือนภัยชาวไร่ชาวสวน ทั่วภาคอีสาน ให้ระวังแก๊งต้มตุ๋นขายปุ๋ย ทางโลกโซเชียล ประกาศขายปุ๋ยเคมี อวดอ้างสรรพคุณ ดีเลิศ ราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป หารู้ไม่ว่า แก๊งต้มตุ๋น ได้ปลอมแปลงเฟสบุ้ค ไลน์ ขึ้นมาเพื่อต้มตุ๋นโดยเฉพาะ จนมีเหยื่อหลงเชื่อ ติดต่อเข้าไปสั่งซื้อ โอนเงินให้ แล้วปิดเฟส ปิดไลน์ หนี มีเหยื่อถูกหลอกในหลายพื้นที่ ความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท ตำรวจสืบสวนภาค 4 แกะรอยจับกุมไว้ได้เป็นหญิงสาว 2 คน
                       ย้อนคดีตุ๋น 10 ล้าน เพื่อเตือนภัยชาวไร่ ชาวสวน ที่อาจจะหลงกลเป็นเหยื่อแก๊งต้มตุ๋นได้อีก หลังถูกจับกุมได้ประกันตัวออกไปเพื่อสู้คดีแต่อาจจะไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันซ้ำขึ้นอีกก็เป็นได้  ต้นเดือน ส.ค.63 บิ๊กยง พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 (ว่าที่ ผบช.ภ.4 ) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภ.4 (ว่าที่ ผบก.สส.ภ.4 ) , พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 ,พ.ต.ท.ณัฐพล มุงคำภา รอง ผกก.สส.1 ฯ, พ.ต.ท.สมภพ กองสมบัติ รอง ผกก.สส.1ฯ, พ.ต.ท.บุญร่วม หนูกลาง สว.กก.สส.1ฯ, ร.ต.อ.หญิง ทัศธนาวดี หิมพรหม สว.กก.สส.1ฯ, ร.ต.อ.สุรสิทธิ์ สูตรสุวรรณ รอง สว.กก.สส.1ฯ และเจ้าพนักงานตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.ภ.4
ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ประกอบด้วย 1. น.ส.ปราณี ปักษีเลิศ อายุ 34 ปี ที่อยู่ 110 หมู่ 13 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเลยที่ จ.121/2563 ลง 20 ก.ค.2563   2. น.ส.ศศิธร ใจอ่ำ อายุ 27 ปี ที่อยู่ 50 ถนนประสานมิตร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเลยที่ จ.122/2563 ลง 20 ก.ค.2563  โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ”

                      ตรวจยึดของกลางหลายรายการ   1.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ซัมซุง สีดำ จำนวน 1 เครื่อง 2.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ แอพเปิ้ล สีดำ จำนวน 1 เครื่อง 3.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ oppo สีดำ จำนวน 1 เครื่อง 4.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ แอพเปิ้ล รุ่น iphone 11 จำนวน 1 เครื่อง 5.สมุดบัญชีธนาคาร กสิกรไทย สาขากำแพงเพชร จำนวน 1 เล่ม 6.สมุดบัญชีธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีกำแพงเพชร จำนวน 1 เล่ม   7.สมุดบัญชีธนาคาร กรุงศรี สาขาโรบินสัน กำแพงเพชร จำนวน 1 เล่ม   8.สมุดบัญชีธนาคาร กรุงเทพ สาขากำแพงเพชร จำนวน 1 เล่ม  9.สมุดบัญชีธนาคาร ทหารไทย สาขากำแพงเพชร จำนวน 1 เล่ม   10.สมุดบัญชีธนาคาร ทหารไทย สาขากำแพงเพชร จำนวน 1 เล่ม   11.บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 1 ใบ 12.บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารกรุงศรี จำนวน 1 ใบ 13.บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 1 ใบ   14.บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารทหารไทย จำนวน 1 ใบ 15.บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารกรุงเทพ จำนวน 1 ใบ
                        พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือนมกราคม จนถึง เดือน กรกฎาคม 2563 มีเหตุต้มตุ๋น หลอกลวงขายปุ๋ยเคมีให้กับชาวบ้าน ผ่านโซเชียล ทั้งเฟสบุ้ค ไลน์ ใช้ชือในเฟส.ว่า “โอรส ” มีชาวบ้านถูกหลอกสูญเสียเงินไปมากกว่า 10 ล้านบาท จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภ.4 ,พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.ฯ,พ.ต.ท.ณัฐพล มุงคำภา รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ท.สมภพ กองสมบัติ รอง ผกก.สส.ฯ,ร.ต.อ.หญิงทัศธนาวดี หิมพรหม สว.สส.ฯ และชุดสืบสวน.บก.สส.ภ.4 เข้าสืบสวนจับกุมแก๊งต้มตุ๋นมาดำเนินคดี

                         ชุดสืบสวนได้รับการประสานข้อมูลจาก สภ.ต่างๆในสังกัด ภาค 4 และจากผู้เสียหายว่าได้เกิดเหตุหลอกลวงอ้างขายปุ๋ยอินทรีย์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยจะเป็นการติดต่อกับผู้เสียหายผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ คือ ไลน์ , เฟสบุ๊ค (ซึ่งปลอมขึ้นมา) โดยจะหลอกเสนอขายปุ๋ยอินทรีย์ในราคาพิเศษถูกกว่าท้องตลาด หากผู้เสียหายสนใจก็จะให้ผู้เสียหายโอนเงินค่ามัดจำหรือค่าสินค้าบางส่วนผ่านทางการทำธุรกรรม internet banking จากนั้นก็จะบ่ายเบี่ยงไม่มีการส่งสินค้าให้กับลูกค้าจริง จนเกิดความเสียหายรวมแล้วประมาณ 10 ล้านบาท มีผู้เสียหายมากกว่า 50 ราย
                       ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.4 จึงได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบถึงตัวผู้กระทำผิดและได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับ จนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ขณะหลบหนีซุกซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ระยอง และได้ทำการตรวจยึดโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และสมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็มจำนวนหลายรายการดังกล่าวข้างต้น ซึ่งผู้ต้องหาได้ใช้ในการกระทำผิด โดยผู้ต้องหารับว่าได้ก่อเหตุหลอกลวงอ้างขายปุ๋ยอินทรีย์จริง และไม่มีสินค้าหรือปุ๋ยอินทรีย์จำหน่ายตามที่แอบอ้างแต่อย่างใด โดยเงินที่ได้จากการกระทำผิดนั้นได้นำไปใช้จ่ายเที่ยวเตร่เล่นการพนัน

                        สภ.ที่มีการแจ้งความในพื้นที่ ภ.4  1. สภ.บ้านเทื่อม เสียหาย 410,400 บาท 2. สภ.นาด้วง เสียหาย 461,600 บาท 3. สภ.ผาขาว เสียหาย 240,000 บาท   4. สภ.ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมตรวจสอบ โดยพบว่ามีเงินจากผู้เสียหายที่หลงเชื่อโอนให้กับผู้ต้องหา เสียหายรวมแล้ว ประมาณ 10 ล้าน บาท
                   พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ว่าที่ ผู้บังคับการสืบสวนภาค 4 ฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวขอให้รีบพบพนักงานสอบสวนในท้องที่ใกล้บ้านท่าน เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบหรือติดตามขยายผลถึงกลุ่มร่วมกระทำผิดรายอื่นต่อไป และอย่าหลงเชื่อในการซื้อขายสินค้าผ่านสื่อสังคมโซเซียลที่เชื่อถือไม่ได้ และอย่าหลงเชื่อคนแปลกหน้า ที่ขายสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาดมากผิดปกติ จะทำให้กลายเป็นเหยื่อต้มตุ๋นได้  มิจฉาชีพ หากินกับโลกออนไลน์ แฝงตัวเป็นโจรเทคโนโลยี มีมากขึ้นทุกวัน ตำรวจต้องเหนื่อยจับกันไม่เว้นแต่ละวัน เทคโนโลยีจะไปไกลแค่ไหน ตำรวจไทยก็ตามทันเสมอ

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!