เชียงใหม่-ประชุมสรุปการดำเนินงานและการจัดทำแผนการพัฒนากิจกรรม
ภาพ/ข่าว:ศูนย์ข่าวเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมสรุปการดำเนินงานและการจัดทำแผนการพัฒนากิจกรรมของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 กันยายน 2563 สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้รับเกียรติจาก นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในการเข้าร่วมประชุมสรุปการดำเนินงานและการจัดทำแผนการพัฒนากิจกรรมของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พร้อมปลูก “ต้นกัลปพฤกษ์” บริเวณหน้าห้องประชุมอาคารวารีกุญชร โดยมี นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ประธานกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร พร้อมด้วยนายเบญจพล นาคประเสริฐ กรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร, นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ และ นายดี จันทคลักษณ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เข้าร่วมด้วย ณ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า “ในส่วนของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ของภาคเหนือ และการมาตรวจเยี่ยมเชียงใหม่นท์ซาฟารีในครั้งนี้เป็นความต้องการของตนเองที่ต้องการมาที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพื่อมาให้เห็นกับตาจากที่เคยได้ยินมาว่าที่นี่เป็นแลนด์มาร์คแห่งหนึ่งของภาคเหนือในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเราทราบกันดีแล้วว่านักท่องเที่ยวนั้นจะเป็นผลผลิตของเม็ดเงินที่จะนำมาสู่ประเทศของเราอย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากชาวต่างชาติที่มาเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจนักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หรือใกล้เคียง อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร ภาคบริการต่างๆ ขนส่ง ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งวิสาหกิจชุมชนโดยเฉพาะที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่สามารถสร้างธุรกิจชุมชนให้มีรายได้พอสมควร ในเรื่องของการทำอาหารสัตว์ และมีหลายตำบลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการส่งอาหารสัตว์ให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี รวมทั้งยังมีสิ่งที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ที่สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ผู้ที่ทำธุรกิจการท่องเที่ยว และเป็นรายได้ที่นำมาสู่ประเทศชาติของเรา”
“เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นแหล่งท่องเที่ยวไม่กี่แห่งของภาครัฐที่มีรายได้เลี้ยงตัวเอง เกรงว่าหากในอนาคตถ้ามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ไม่แน่ใจว่าจะสามารถและพัฒนาไปสู่องค์กรที่มีความคล่องตัว หรือมีการพัฒนาในหลายรูปแบบที่ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับเรื่องของการท่องเที่ยว และภาคเอกชนเองก็อยากเห็นเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีระบบการเปลี่ยนแปลงที่มีความรวดเร็ว และต้องการที่จะมีความร่วมมือกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ในหลายๆ ด้าน เพื่อทำให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็น World Class เป็นที่ท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งจากการที่ได้มาที่นี่ก็ได้เห็นว่าศักยภาพของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีพร้อมที่จะเป็น World Class ได้ ซึ่งในอนาคตสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศไทยจะกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เนื่องจากเป็นประเทศที่นับว่ามีความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 รวมทั้งมีมาตรการต่างๆ เชื่อว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวนานาประเทศอย่างแน่นอน”
นอกจากนี้ หลังเสร็จสิ้นการประชุมสรุปการดำเนินงานและการจัดทำแผนการพัฒนากิจกรรมของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี คณะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้เดินไปยังวัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวพื้นที่ใกล้เคียงเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/