อยุธยา-ปิดการฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง

ภาพ/ข่าว :นราเอก ตันศิริ , นพดล บำเพ็ญสัตย์

                    ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธี ปิดการฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำ และทัณฑสถาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

                     เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 15 กันยายน 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นาย ภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาเป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีปิดการฝึกโครงการพระทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง ที่ เรือนจำกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นาย สมชาย อุดมโชค ผู้บัญชาการเรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา กล่าวรายงาน ผลการปฏิบัติในการฝึกโครงการพระทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง มีเข้าฝึกอยู่ทั้งหมด 3 เรือนจำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา กรมราชทัณฑ์
                    ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้มีการฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำ และทัณฑสถานจังหวัดพระนครศรีอยุธย กรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้านปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา เพื่อสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็กโดยสามารถดำเนินการได้ทุกเงื่อนไขของพื้นที่ และมุ้งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นฐานความคิดการฝึกวินัยการลงมือปฏิบัติ ตลอดจนการแก้ปัญหในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนได้เมื่อพ้นโทษออกไปภายนอก นั้นปัจจุบัน การฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำละทัณฑถาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรมราชทัณฑ์ นี้ มีผู้เข้ารับการฝึกเป็นผู้ต้องขังเรือนจำกลางพระนครศรีอยุธย จำนวน 95 คน เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจำนวน 231 คน และทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา จำนวน 136 คนโดยปฏิบัติการฝึกอบรมป็นวลา 14 วัน ระหว่างวันที่ 1-14 กันยายน 2563 จากการฝึกอบรมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก มีผู้สำเร็จการฝึกจำนวน 462 คน
                     ที่ผ่านมา เรือนจำ และทัณฑสถาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาสามารถพึ่งพาตนเองตามแนวทางเศษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ทั้งสามารถช่วยเหลือประชาชน ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมได้หลังจากนี้แล้วผู้ต้องขังที่จะรับการพักโทษในโอกาสต่อไปจะต้องไปดำเนินการในพื้นที่ตามภูมิลำเนาของตนเองอันเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็พระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆของพระบทสมเด็พระบรมชนการิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร โดยการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและช่วยกันพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/