ศรีสะเกษ-พิษโนอึลทำให้ถนนจมใต้น้ำเสาไฟฟ้า 12 ต้นล้มขวางถนน

ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข

                       พิษโนอึลทำให้ถนนจมใต้น้ำเสาไฟฟ้า 12 ต้นล้มขวางถนน 10 อำเภอน้ำท่วมขัง

                       เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 18 ก.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่พายุโซนร้อนโนอึล ได้พัดถล่มหลายพื้นที่ของ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า ได้ส่งกระทบทำให้น้ำท่วมขังถนนหลายสายในเขต อ.เมืองศรีสะเกษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณสามแยกนิกรมอเตอร์ ต.โพธิ์ อ.เมืองศรีสะเกษ น้ำได้ท่วมถนนสูงประมาณ 30 ซม.ระยะทางประมาณ 600 เมตร น้ำได้เอ่อทะลักเข้าไปท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ริมถนน ทำให้ชาวบ้านต้องพากันเก็บข้าวของทรัพย์สินต่าง ๆ หนีน้ำท่วมกันอย่างโกลาหล ขณะที่รถยนต์ รถจักรยานยนต์สัญจรไปมาด้วยความยากลำบากเนื่องจากว่า ระดับน้ำค่อนข้างสูงมาก พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตร.จราจร มาคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

                      นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมขังเส้นทาง และบ้านเรือนของชาวบ้าน มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมขัง รวม 10 อำเภอ 19 จุด พื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขัง ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักล้ม 7 ชุมชน ถนน 12 สาย (ถนน อปท.6 แห่ง ถนน ทล.6 แห่ง) ในพื้นที่ อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ อ.กันทรลักษ์ อ.ไพรบึง อ.ราษีไศล อ.กันทรารมย์ อ.เบญจลักษ์ อ.ปรางค์กู่ อ.อุทุมพรพิสัย และ อ.ศรีรัตนะไม่มีบ้านที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย และไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด โดยที่บริเวณถนนเยื้องหน้า ร.ร.เบญจลักษ์พิทยา ต.เสียว อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เสาไฟฟ้า จำนวน 12 ต้น ล้มขวางเส้นทางหลวงสาย 2085 ถนนสายเบญจลักษ์ – วารินชำราบ ทำให้การจราจรใช้ได้ 3 ช่องทาง ในการช่วยเหลือนั้น จนท.ของ อปท. และ เจ้าหน้าที่ทหาร ป.พัน6 ได้เข้าไปให้ช่วยเหลือติดตั้งเครื่องสูบน้ำของ อปท.7 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังและวางแนวกระสอบทราย 1,500ถุง ป้องกันในเขตชุมชน 4 แห่ง ซึ่ง นายวัฒนา พุฒิชาติผวจ.ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้หน่วยสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องประชุมประเมินสถานการณ์ และกำหนดมาตรการรับมือผลกระทบจากพายุโซนร้อนโนอึล เป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.2563 เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/