กาญจนบุรี-ผวจ.นำประชาชนประกอบพิธี เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต
ภาพ/ข่าว:รักษพล พุ่มพฤกษ์
ขอบคุณข้อมูล:งานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นำประชาชนประกอบพิธี เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้
วันที่ 13 ตุลาคม 2563 เวลา 07.00 น. ที่ศาลา 60 พรรษามหาราช อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วย นางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ร้อยตรี พงศธร ศิริสาคร ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ นายชำนาญ ชื่นตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พลตรี ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๑๗ พลตำรวจตรี วรณัน สุขเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
จังหวัดกาญจนบุรี คณะสงฆ์ และประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม โดยได้ร่วมกันประกอบพิธีสงฆ์และตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 89 รูป เพื่อถวายพระราชกุศลและให้ประชาชนได้ร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยมาตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้นำประกอบพิธีวางพวงมาลาและถวายบังคมเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีได้วางพวงมาลา เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมนำผู้ร่วมพิธีถวายบังคมพร้อมกัน 3 ครั้ง จากนั้นส่วนราชการหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน และภาคประชาชนในจังหวัดกาญจนบุรีร่วมวางพวงมาลา เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ จนเสร็จสิ้นพิธี
นับจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 เป็นต้นมา พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ชาวไทยตลอด 70 ปี ทั้งทรงจัดตั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ โดยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญที่สุดจนทำให้พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญในประเทศไทย คือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งพระองค์ได้ปฏิบัติพระองค์เองเป็นแบบอย่าง และพระองค์ยังเสด็จเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ ได้ทรงทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่ ทรงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นให้บรรเทาลงหรือหมดสิ้นไป เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและทัดเทียมกันของประชาชนทั้งชาติ ปวงชนชาวไทยต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระอาการประชวร ได้ทรุดหนักลงตามลำดับ จนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ เรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคตด้วยพระอาการสงบ ณ โรงพยาบาลศิริราช เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที ของวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี 4 เดือน 4 วัน ประชาชนทั่วประเทศต่างโศกเศร้าเสียใจและอาลัยต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ ทั้งนี้คณะรัฐมนตรียังมีมติกำหนดให้วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันหยุดราชการ เพื่อให้ประชาชนน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/