สมุทรปราการ-อ่านแถลงการณ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

ภาพ/ข่าว:สุรศักดิ์ -อัญมณี คงสินธ์ 

                 ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านและ อสม.ชาวสมุทรปราการ ร่วมอ่านแถลงการณ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

                     เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 21 ตุลาคม 2563 ที่บริเวณหน้าอำเภอเมือง จ.สมุทรปราการ นายไพบูรณ์ พินเที่ยง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่ เขตอำเภอเมืองสมุทรปราการ และชาวบ้านรวมกว่า 500 คน ได้ร่วมกันถือรูปพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่10 พร้อมธงชาติไทยโบกสะบัด พร้อมชูป้ายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ก่อนที่เคลื่อนตัวไปยังบริเวณ หน้าพระบรมรูปรัชกาลที่5 บริเวณริมเขื่อนหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ

                    นายไพบูรณ์ พินเที่ยง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดสมุทรปราการ ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่1 ของชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเมืองจังหวัดสมุทรปราการว่า “ สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสถาบันเก่าแก่ที่สุด ที่คู่มากับชาติไทยตั้งแต่เริ่มสร้างชาติ และเป็นสถาบันที่ประชาชนคนไทยเคารพ เทิดทูนตลอดมา หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 บทบาทของกษัตริย์ พระบารมีหรือพระบรมเดชานุภาพมิได้ลดน้อยลง ประชาชนคนไทย ยังคงให้ความรัก ความศรัทธา และความจงรักภักดีมาจนถึงปัจจุบัน พระมหากษัตริย์ ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพศรัทธา ผู้ได้จะละเมิดมิได้ ปัจจุบันมีกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง มีการกระทำพาดพิงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ในนามชมรมผู้ใหญ่บ้าน และชาวอำเภอเมืองสมุทรปราการ ผู้มีความจงรักภักดี ของแสดงจุดยืนและรวมพลังปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ตลอดไป เราคือคนไทย หัวใจเดียวกัน
                     หลังจากนั้นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเมือสมุทรปราการ ได้ยืนหนังสือแถลงการณ์ให้ต่อนายณัชวันก์ อัลภาชน์ เตชะเสน นายอำเภอเมืองสมุทรปราการ เพื่อนำเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และนำส่งไปยังนายกรัฐมนตรี จากนั้นทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านพร้อมประชาชนที่สวมเสื้อสีเหลืองได้ร่วมกันร้องเพลง อยู่อย่างจงรักษ์ตายอย่างภักดี และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมเปล่งเสียงปกป้องสถาบัน โบกธงชาติไทยปลิวไสว และเคลื่อนขบวนจากหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตลาดปากน้ำระยะทาง 2 กิโลเมตร เพื่อแสดงพลังถึงความจงรักภัคดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ก่อนที่ขบวนจะวนกลับเข้าศาลากลางจังหวัด ฯ อีกครั้ง

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/