สตูล-พบน้ำมันดีเซลรั่วไหล ลอยโผล่หัวเรือเข้าเขตอุทยานตะรุเตา

ภาพ/ข่าว:ชิดชนก  พุดทอง

                 เรือประมงไฟไหม้จมกลางทะเลสตูล  พบน้ำมันดีเซลรั่วไหล ลอยโผล่หัวเรือเข้าเขตอุทยานตะรุเตา ยังไม่กระทบปะการัง เร่งกู้ซากเรือพรุ่งนี้ พบมูลค่าทั้งลำเสียหาย 4 ล้านบาท

               วันที่ 3 มีนาคม 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มอบหมายให้นายบัญญัติ ฉายอรุณ ผอ.ทสจ.สตูลพร้อมด้วย นางสาวพัณณ์ชิตา ทัพพ์วราค์กูร นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 นายเอกชัย หมวดจันทร์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา นางอรุณี แสงหยัง ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ลงพื้นที่จุดบริเวณที่เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้เรือประมงเรือภมรสินธุ์นาวา 10 ทะเบียนเรือ 209204205 เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ ขนาด 64.00 ตัน ที่จมลงในพื้นที่ทะเลสตูล บริเวณทิศเหนือเกาะอาดัง ห่าง 7.4 ไมล์
                โดยทางจังหวัดสตูลเร่งลงพื้นที่จุดตรวจสอบเรือจม เมื่อนำเรือตรวจการณ์ของกรมทรัพยากร สิ่งแวดล้อมออกไปจุดที่เรือจม กลับมาพบโดยนำเรือวิ่งออกตรวจรอบบริเวณ รอยร่องน้ำทางทะเล เกาะอาดัง – ราวี ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา และล่องเรือไปยังทางทิศเหนือ เกาะราวี ก็พบหัวเรือที่จมโผล่และลอยตามกระแสน้ำ

                เมื่อเดินทางไปสำรวจใกล้ๆพบกลิ่นน้ำมันดีเซลไหลลอยบนพื้นผิวน้ำทะเลเห็นได้ชัด โดยประเมินพบว่า น้ำมันในเรืออาจจะมีอยู่ประมาณ 200 ลิตร เพราะเรือลำนี้ก่อนเกิดไฟไหม้นั้น ได้ล่องเรือเพื่อมาเติมน้ำมันกับเรือที่แจกจ่ายน้ำนัน และสาเหตุจากการสอบถามเบื้องต้นเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ประกายไฟกระเด็นลุกไปโดนแบตเตอรี่จนระเบิดลุกเป็นไฟท่วมอย่างรวดเร็ว ลูกเรือทั้ง 8 คนจึงต้องหาทางออกหนี ออกจากเรือ และกระโดดลงทะเลหนีไฟ เบื้องต้นได้ติดต่อไปยังเจ้าของเรือดังกล่าวพบว่า มูลค่าเสียหาย4 ล้านบาทในเบื้องต้น

                ทั้งนี้นายบัญญัติ ฉายอรุณ ผอ.ทสจ.สตูล เปิดเผยว่า การลงพื้นที่โดยพาเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 ลงมาเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำทะเลจุดที่จม และจุดที่เรือลอยโผล่ออกมา เพื่อหาค่าผลกระทบว่า เรือจมนี้ส่งผลกระทบด้านใดบ้าง และส่งผลไปตรวจห้องวิทยาศาตร์ หรือห้องแล๊บประมาณ 15 วัน
                นายบัญญัติ ฉายอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสตูล กล่าวอีกว่า ตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำมัน ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณใกล้เคียงได้ จากการตรวจสอบพบซากเรือลำดังกล่าว ลอยอยู่บริเวณทิศเหนือของเกาะราวี พิกัด 47N 520975 UTM 725737 โดยพบหัวเรือลอยขึ้นสูงจากผิวน้ำประมาณ 2 เมตร อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 200 เมตร ที่ระดับน้ำลึก 17 เมตร ขณะตรวจสอบ มีกลิ่นน้ำมันและคราบน้ำมันลอยบริเวณรอบๆ ซากเรือ ซึ่งได้เก็บตัวอย่างน้ำทะเล จำนวน 2 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 บริเวณที่เกิดเหตุเรือไฟไหม้เมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา ซึ่งไม่พบคราบน้ำมัน และจุดที่ 2 บริเวณที่พบซากเรือในวันนี้ ซึ่งอยูห่างกันประมาณ 5ไมล์ทะเล จากผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำภาคสนาม ได้แก่ อุณหภูมิ ความเป็นกรด-ด่าง ความโปร่งใส ออกซิเจนละลาย ความเค็ม และการนำไฟฟ้า พบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และได้เก็บตัวอย่างน้ำส่งตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ เพื่อทดสอบปริมาณปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอน และคุณภาพน้ำตามดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำทะเล เพื่อจะได้วางแผนในการบริหารจัดการในพื้นที่ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้

               ทั้งนี้ได้ประสานกับเจ้าของเรือลำดังกล่าวแล้ว ทราบว่าจะทำการกู้ซากเรือที่จมในวันพรุ่งนี้ โดยจะประสานงานกับอุทยานแห่งชาติตะรุเตา สำนักงานประมงจังหวัดสตูล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้รับทราบแนวทางในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายต่อไป
                นายเอกชัย หมวดจันทร์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา กล่าวว่า พื้นที่จุดเรือลอยโผล่มีน้ำมันดีเซลลอยอยู่นั้นพบว่าน้ำมันลอยออกมาจากเรือ และเห็นตามผิวน้ำทะเล ซึ่งจุดนี้มิได้เป็นจุดแหล่งท่องเที่ยว มีปะการังอยู่แต่อยู่ในน้ำลึก รวมทั้งเร่งประสานให้ทางเจ้าของเรือดังกล่าวมากูซากเรือออกทันทีในวันพรุ่งนี้

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/