ประจวบคีรีขันธ์-เจ้าหน้าที่3ฝ่ายปิดล้อมสวนปาล์มจับพม่ากว่า 30 คนลักข้ามแดนไทย
ภาพ/ข่าว:ณัฐพัชร์ วงศ์ประเสริฐบุรี (เอกภพ)
ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ปิดป่าปาล์มล้อมจับพม่ากว่า 30 คนลักข้ามแดนไทย คาดเตรียมไปทำงานตลาดแพกุ้งมหาชัย
เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 4 มี.ค.64 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองประจวบ ร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบ ได้สนธิกำลังปิดล้อมป่าสวนปาล์มน้ำมันของชาวบ้าน บริเวณพื้นที่หมู่ 5 บ้านเนินแก้ว ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์แอบลักลอบข้ามแดนเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทย โดยได้สนธิกำลังเฝ้าติดตามจนพบกลุ่มบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ จำนวนกว่า 20 คน กำลังเดินเท้าลงมาจากป่าชายแดนแนวเทือกเขาตะนาวศรี บริเวณช่องเขาหลัก หมู่ 5 บ้านเนินแก้ว แล้วเข้ามากบดานในป่าสวนปาล์มน้ำมัน และสวนยางพาราใกล้กับถนนพุไม้แก้ว เขตพื้นที่ ส.ป.ก.ปข.45902 เมื่อกลุ่มบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์พบเห็นเจ้าหน้าที่จึงตกใจแตกฮือเหมือนผึ้งแตกรังวิ่งหลบหนีกันคนละทิศละทาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้นำกำลังอาสารักษาดินแดน( อส.) สนธิกำลังร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย ช.ร.บ. ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบฯ และทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กระจายกำลังปิดล้อมป่าสวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา จนสามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ได้มาเบื้องต้นทั้งหมด 32 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระครบ แบ่งเป็นชาย 20 คน หญิง 12 คน(ดญ.1 คน) อายุประมาณระหว่าง 20 ปี -40 ปี ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวส่วนที่เหลือคาดว่ามีมากกว่านี้ที่กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ ในเบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา 2 ราย ในข้อหาลักลอบนำพาบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนที่เหลือแจ้งข้อกล่าวหาลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้น ทราบว่า กลุ่มบุคคลต่างด้าวที่จับกุมได้ส่วนใหญ่ เดินทางมาจากย่างกุ้งเมืองหลวงของพม่า จังหวัดมะริด และ จังหวัดทะวาย โดยที่หมายปลายทาง คือ ตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอปราณบุรี และอำเภอหัวหิน เป็นต้น แต่ไม่ยอมบอกถึงกระบวนการนำพา จึงได้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายในเบื้องต้น เนื่องจากกลุ่มชาวเมียนมาร์ เดินทางมาจากย่างกุ้งเมืองหลวงพม่า ซึ่งเป็นพื้นที่แพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดไว้ในรถห้องขังของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบ เพื่อรอเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในตอนเช้าว่ามีหรือไม่ พร้อมกับติดตามไล่ล่าส่วนที่เหลืออีก 3 ราย ที่ยังหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าก่อนที่จะส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายคณพศ สายสกล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านเนินแก้ว เจ้าของพื้นที่เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้พยายามแกะรอยเท้ามาประมาณ 2 เดือนแล้ว แต่ก็ไม่สามารถจับกุมได้ เนื่องจากผู้กระทำผิดไหวตัวทันตลอด จึงได้ใช้วิชาความรู้ความสามารถในการเดินป่าล่าสัตว์ในสมัยอดีตมาปรับใช้ จนสามารถไปพบชาวเมียนมาร์ซึ่งเป็นผู้นำพากำลังเดินเท้าออกไปซื้อน้ำและเสบียงอาหารที่บริเวณร้านค้าใกล้เคียง จึงได้เข้าไปตรวจสอบ และพบมีพิรุธ จึงได้สอบเค้นเอาความจริงจนยอมรับ และนำพามาชี้จุดที่หลบซ่อนตัวของกลุ่มชาวเมียนมาร์ที่รอรถมารับ และส่วนใหญ่จะเดินทางไปตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากตลาดแพกุ้งได้เริ่มเปิดกิจการตามปกติแล้ว บางส่วนก็อ้างว่าจะไปหาญาติที่อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี ซึ่งทำโรงงานสับปะรด และไปรับจ้างกรีดยางในภาคใต้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/
