ประจวบคีรีขันธ์-เปิดศูนย์ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ เข้ม 5 มาตรการหลัก
ภาพ/ข่าว:ณัฐพัชญ์ วงศ์ประเสริฐบุรี
เปิดศูนย์ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ เข้ม 5 มาตรการหลัก ตั้งเป้าเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่า 60 ครั้ง เสียชีวิตน้อยกว่า 6 ราย และบาดเจ็บน้อยกว่า 62 ราย
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 9 เม.ย.64 ที่บริเวณลานด้านหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์(หลังใหม่) นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 โดยมีนายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการเปิดศูนย์ครั้งนี้ และมีหัวหน้าส่วนราชการ สำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบ สำนักงานแขวงทางหลวงประจวบ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ตำรวจภูธร ตำรวจทางหลวง ตชด.14 กองบิน 5 ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครหน่วยกู้ชีพ-กู้ภัย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมโดยพร้อมเพรียง
โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 พร้อมจัดทำแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 ภายใต้ชื่อการรณรงค์ว่า “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” โดยมีการกำหนดช่วงคุมเข้มข้นระหว่างวันที่ 10-16 เมษายน พ.ศ.2564 เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย โดยมีมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 5 มาตรการหลัก ได้แก่ 1.มาตรการด้านบริหารจัดการ 2. มาตรการด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม 3.มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ 4.มาตรการผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย 5.มาตรการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ
โดยสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ในระดับประเทศ มีจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ 3338 ครั้ง จำนวนผู้เสียชีวิต 386 ราย และจำนวนผู้บาดเจ็บ 3442 ราย ซึ่งตัวชี้วัดในการดำเนินการของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คือ ลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุให้น้อยลง 5 เปอร์เซ็นต์ของค่าเฉลี่ยช่วงเทศกาลสงกรานต์ 3 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2560-2562 คือ ลดการเกิดอุบัติเหตุให้น้อยกว่า 60 ครั้ง ผู้เสียชีวิตน้อยกว่า 6 ราย และผู้บาดเจ็บน้อยกว่า 62 ราย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/