สระบุรี- รวบหัวขโมย ขี่จักรยาน ตะเวนงัดลักทรัพย์ชาวบ้านและร้านค้า

ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร

                      ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท รวบหัวขโมย ขี่จักรยาน ตะเวนงัดลักทรัพย์ชาวบ้านและร้านค้า หลังสร้างความเดือนร้อนหลายราย

                      กล้องวงจรปิด ภายในร้าน รับบริการ ซักผ้าด้วยเครื่องยอดเหรียญ ริมถนนสาย พระพุทธบาท –บ้านหมอ หมู่ 5  ต.พุกร่าง   อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จับภาพ ชายขี่จักรยานยนต์ตะเวนใช้อุปกรณ์และคีมตัดขนาดใหญ่ ตัดลูกกุญแจพร้อมทั้งงัดกล่องบรรจุเงินภายตู้เครื่องซักผ้ายอดเหรียญแล้วหลบหนี นายชัยฤกษ์ สุขสาธุ อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า คนร้าย เป็นชาย ตามภาพจากกล้องวงจรปิด มีพฤติกรรม ขี่จักรยานดังกล่าวเคยเข้ามาก่อเหตุ ลักเงิน  2 ครั้ง
                     ล่าสุดเมื่อกลางดึกของวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวขี่จักรยานมาจอดบริเวณหน้าร้าน จากนั้นเห็นปลอดคนจึงเข็นจักรยานเข้ามาจอดหน้าเครื่องซักผ้าโดยนำอุปกรณ์ในการใช้โจรกรรมที่ใส่ตะกร้าท้ายรถจักรยานมาด้วย  จากนั้นชายดังกล่าวใช้คีมขนาดใหญ่ตัดลูกกุญแจ เพื่อนำเงินในกล่องเครื่องซักผ้า จำนวน 2 กล่อง ภายในมีเงินประมาณ 4000 บาท หลบหนีไป

                     ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังสอบถามรายละเอียดหัวขโมยรายนี้ สายข่าวได้โทรศัพท์ เข้ามาแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ ตำรวจสภ.พระพุทธบาท ได้จับกุมตัวหัวขโมยรายนี้ได้แล้ว และกำลังนำตัวมาถ่ายรูปชี้จุดซ้อนทรัพย์สิน พร้อมทั้งจะทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ขโมยทรัพย์สินในพื้นที่หลายรายเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน บริเวณที่พักของชายดังกล่าว
                  จากการสอบถามทราบว่าชายที่ขี่จักรยานตะเวนลักทรัพย์สินชาวบ้านร้านค้า สร้างความเดือดร้อนหลายรายในบริเวณตำบลพุกร่าง (คือ นาย นาฤทธิ์ นากพุฒิ อายุ 44 ปี ) ผู้สื่อข่าวจึงรีบเดินทางไปยังจุดที่นายนาฤทธิ์ ซุกซ่อนทรัพย์สินพบว่าเป็นบ้านร้างอยู่ด้านหลังป่าละเมาะริมถนนสายพระพุทธบาท บ้านหมอซึ่งระยะจากจุดที่นายนาฤทธิ์ก่อเหตุกับจุดที่ซุกซ่อนทรัพย์สินระยะทางประมาณเกือบ 3 กิโลเมตร

                 ด้านเจ้าหน้าที่ยังพบอาวุธปืน (มีทะเบียน) ที่นายนาฤทธิ์ขโมยมาอีก 1 กระบอกถูกซุกซ่อนอยู่ใต้พงหญ้าช่วงข้างช่องประตูหลังบ้านร้าง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายนาฤทธิ์ไปชี้จุดเกิดเหตุและเส้นทางที่ก่อเหตุและขี่จักรยานหลบหนี  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวนายนาฤทธิ์ไป ชี้จุดแรกที่เข้างัดร้านค้าการทำแผนประกอบคำรับสารภาพตั้งแต่หน้าร้านค้าที่นายนาฤทธิ์ใช้คีมตัดลูกกุญแจก่อนจะเข้าไปลักทรัพย์สินภายในร้านได้เงินไปจำนวนหนึ่ง ( ขณะตำรวจนำตัวนายนาฤทธิ์ไปชี้จุดทำแผนจุดแรกเจ้าของร้านไม่อยู่ปิดร้านไว้) จากนั้นหลบหนีไป จุดที่ 2 งัดร้านค้าอีกร้านไม่ห่างกันซึ่งร้านค้าดังกล่าว เป็นร้านขายสินค้า 20 บาท
                 นายธีรศักดิ์  เล็กกุล อายุ 32 ปี เป็นเจ้าของร้าน เผยว่า ช่วงกลางดึกนายนาฤทธิ์ ขี่จักรยานมางัดประตูร้านตนเองในตอนนั้นได้เงินไปประมาณ 3000 บาท  พร้อมอาวุธปืนของพ่อ ที่พ่อตนเองมอบให้ตนเองเก็บรักษาไว้ในลิ้นชักโต๊ะ  แต่ก็มาถูกนายนาฤทธิ์ขโมยไปได้โดยหลังจากที่ทรัพย์สินตนเองหาย ตนเองได้พยายามสืบหาชายที่ขี่จักรยานบริเวณแถวนั้นจนทราบว่าชอบไปลักขโมยทรัพย์สินในร้านค้าชาวบ้านอีกหลายราย ซึ่งอย่างต่ำ ประมาณ 5-6 ร้านค้า ในรอบ 1 เดือน ที่ผ่านมา  โดยครั้งนี้ตนเองเป็นผู้ชี้เบาะแส จุดที่นายนาฤทธิ์อาศัยหลบหลับนอน พร้อมทั้งแจ้งให้ตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ส่วนร้านค้าอื่นๆ ในบริเวณตำบลพุกร่างหรือใกล้เคียง เคยถูกนายนาฤทธิ์เข้างัดบ้านหรือร้านค้า สร้างความเดือดร้อนขโมยทรัพย์สินหากสงสัยให้ติดต่อขอดูหลักฐานหรือแจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ นายนาฤทธิ์ได้ที่ สภ.พระพุทธบาท ส่วนหลักฐานที่ตำรวจยึดจากนายนาฤทธิ์ ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์เครื่องมือช่างเพื่อไว้สำหรับงัดแงะบ้านเรือนพร้อมทั้งร้านค้า ธนบัตรและเหรียญ จำนวน 1441 บาท จักรยาน 1 คัน ตระกร้า 1 ใบ  นอกนั้นเป็นทรัพย์สินที่นายนาฤทธิ์ขโมยมาหลายรายการ  อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งติดตามทรัพย์สินที่นายนาฤทธิ์แอบนำไปขายหรือซุกซ่อนอยู่เพื่อรวบรวมหลักฐานทั้งหมดมาประกอบสำนวนส่งดำเนินคดีต่อไป


สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/