ประจวบคีรีขันธ์-ผู้ใหญ่บ้านซุ่มจับแรงงานเถื่อนเมียนมาร์ลักลอบข้ามแดน 12 ราย
ภาพ/ข่าว:ณัฐพัชญ์ วงศ์ประเสริฐบุรี
สุดยอดผู้ใหญ่บ้านปลอมตัวเป็นคนเลี้ยงวัวซุ่มจับแรงงานเถื่อนเมียนมาร์ลักลอบข้ามแดน 12 ราย หวิดถูกง้าวฟันหัวแบะ
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 20 ก.ค.64 พ.ต.อ.เสมอ อยู่สำราญ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองประจวบ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบ ลงพื้นที่สอบปากคำกลุ่มบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ที่แอบลักลอบข้ามแดนมาขายแรงงานยังฝั่งไทย พร้อมประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าเก็บสารคัดหลั่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ณ บริเวณจุดตรวจบ้านมะขามโพรง หมู่ 9 ตำบลเกาะหลักอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เส้นทางไปช่องทางด่านสิงขร ซึ่งอยู่ใกล้กับช่องทางธรรมชาติหุบตาหลี หลังจากที่ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมผู้ช่วย เจ้าหน้าที่ ชรบ. และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ประจำหน่วยด่านสิงขร ได้ร่วมกันจับกุมตัวบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ทั้งหมด 12 ราย พร้อมคนนำทางขณะกำลังแอบลักลอบเดินเท้าข้ามแดนมายังฝั่งไทยโดยใช้ช่องทางธรรมชาติ หุบตาหลี พื้นที่หมู่ 9 บ้านมะขามโพรง เพื่อรอนายหน้ามารับ
โดยแบ่งเป็น ชาย 9 ราย หญิง 2 ราย อายุระหว่าง 20-40 ปี และคนนำทางชายอายุ 56 ปี อีก 1 ราย จากการสอบสวนทราบว่ากลุ่มแรงงานชาวเมียนมาร์ได้เดินทางมาจากอำเภอต่างๆ ในจังหวัดเมาะลำใย ประเทศเมียนมาร์ และเสียเงินให้กับนายหน้า คนละ 5000 -10000 บาท แล้วมาพักรอที่หมู่บ้านมูด่องฝั่งเมียนมาร์ ซึ่งเป็นโรงน้ำเก่าของนายเล็กคนไทยใกล้กับหอนาฬิกาบ้านมูด่อง ซึ่งปิดกิจการไปแล้วหลังจากที่ชายแดนด่านสิงขรถูกปิดจากสถานการณ์โควิด-19 โดยนายหน้าชาวเมียนมาร์ ชื่อมะระยี อายุ 28 ปี ชาวมูด่องได้ใช้เป็นสถานที่สำหรับให้กลุ่มแรงงานที่รอข้ามแดนมายังฝั่งไทยเป็นที่พักรอ จากนั้นจึงให้คนนำทางพาเดินเท้ามาพักค้างแรมในป่าบนสันแดนแนวเทือกเขาตะนาวศรี ช่วงเวลากลางคืนโดยเสียเงินให้คนนำทางรายหัวละ 500 บาท ก่อนติดต่อให้นายหน้ามารับในตอนเช้าแต่นายหน้าฝั่งไทยไม่ยอมมารับ ซึ่งทั้งหมด 11 คน จะเดินทางไปทำงานโรงงานไก่ จ.สมุทรปราการ 2 คน รอนายหน้าหางานให้ 6 คน อีก 3 คน จะไปทำงานรับจ้างกรีดยางภาคใต้ แต่ยังไม่รู้ที่ไหน
นายแวมิ อายุ 56 ปี ชาวเมียนมาร์ซึ่งเป็นคนนำทางยอมรับสารภาพว่า ตนได้รับจ้างจากนายหน้าชื่อมะละยี อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงอยู่ที่บ้านมูด่องให้นำทางพาชาวเมียนมาร์ทั้ง 11 คน มาส่งที่ฝั่งไทย โดยได้ค่าจ้างหัวละ 500 บาท จากนั้นจะมีนายหน้ามารับ แต่นายหน้าไม่ยอมรับ จึงถูกเจ้าหน้าที่ทางการฝั่งไทยจับได้ ซึ่งตนเองได้ทำมาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง และถูกจับได้ 3 ครั้ง ซึ่งครั้งไหนถ้าถูกจับได้ตนก็จะไม่ได้รับเงินค่านำทาง ส่วนฝั่งเมียนมามีคนร่วมขบวนการด้วยหลายกลุ่ม และได้มีการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ทางการฝั่งเมียนมารายหัวละ 500 บาทด้วยเช่นกัน
ด้านนายประจักษ์ สนสนิท ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านมะขามโพรง เปิดเผยว่า ตนเองได้เข้าไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ใกล้ชายแดน โดยปลอมเป็นคนเลี้ยงวัวนำวัวเข้าไปเลี้ยง และได้พบเห็นกลุ่มชาวเมียนมาร์เดินเท้าลงมาจากช่องทางธรรมชาติ หุบตาหลี จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ ชรบ. พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเข้าไปแสดงตัวจับกุมชาวเมียนมาร์ได้ทั้งหมด 11 ราย ส่วนอีก 1 รายเป็นคนนำทางได้วิ่งหลบหนี และตนพยายามติดตามเข้าไปจับกุม แต่คนนำพาได้ใช้มีดง้าวที่พกติดมือมาข่มขู่ว่า ถ้าหากเข้าไปจับกุมจะใช้มีดฟัน ตนจึงได้ยิงปืนขู่พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก เข้าไปสนับสนุน และควบคุมตัวมาได้ทั้งหมด โดยส่วนตัวตนเองก็มีความรู้สึกหวั่นกลัวเรื่องอันตราย ทั้งเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 และอันตรายหากมีการต่อสู้ แต่ก็ต้องทำตามหน้าที่เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโควิด -19 เข้าไปแพร่ระบาดในพื้นที่ชั้นในเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/