อธิบดีพช.ผนึกกำลังกับ “Lazada” เชิญชวนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์ม
ภาพ/ข่าว:คัคเนศวร์ พรอัศวโยธิน
อธิบดีพช.ผนึกกำลังกับ “Lazada” เชิญชวนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์ม พร้อมยกระดับการช้อปปิ้งผ่านออนไลน์ สร้างรายได้ สู้วิกฤตโควิด-19
วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างกับพี่น้องประชาชน รวมถึงผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้ ทำให้ขาดรายได้ ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม ทำให้กรมการพัฒนาชุมชน มองเห็นช่องทางการช่วยเหลือกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ในการส่งเสริมการตลาด ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน จึงได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มลาซาด้า (Lazada) โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมจำหน่ายสินค้า ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 384 ราย มีผลิตภัณฑ์ OTOP จำนวน 486 ผลิตภัณฑ์ โดยแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ 1) ประเภทอาหาร จำนวน 186 ผลิตภัณฑ์ 2) ประเภทเครื่องดื่ม จำนวน 42 ผลิตภัณฑ์ 3) ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย จำนวน 105 ผลิตภัณฑ์ 4) ประเภทของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก จำนวน 61 ผลิตภัณฑ์ 5) ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร จำนวน 92 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนช่องทางการตลาดนี้ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง
นายวีระพงศ์ โก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ได้ร่วมมือกับกรมการพัฒนาชุมชน จำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์ม โดยลาซาด้ามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการสนับสนุนกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP อย่างเต็มที่ ด้วยเครื่องมือและทรัพยากรบนแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ผู้ขายอย่างมีประสิทธิภาพ ลาซาด้า เชื่อว่าด้วยความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและโลจิสติกส์ ระดับโลกของเรา จะสามารถผลักดันผลิตภัณฑ์ OTOP เข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ให้ประสบผลสำเร็จ สามารถแข่งขัน เพิ่มยอดขายสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซได้อย่างทั่วถึง และครอบคลุมทุกพื้นที่
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จึงได้ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งกระบวนการผลิต การสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์ และการส่งเสริมการตลาดทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยนำสินค้า OTOP ที่คัดสรรจากผู้ประกอบการทั่วประเทศมากกว่า 400 ผลิตภัณฑ์ ให้ได้เลือกกันอย่างจุใจ ผ่านแพลตฟอร์มลาซาด้า (Lazada) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานได้อย่างทั่วถึง เพื่อช่วยให้ร้านค้าและผู้ขายสามารถเพิ่มยอดขาย ผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ จึงเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นแรงผลักดันและสร้างศักยภาพให้ชุมชนท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง สามารถปรับตัวเข้าสู่วิถีชีวิตในรูปแบบ new normal สร้างธุรกิจ การตลาดให้แข็งแรงและเติบโตได้ในระยะยาว ซึ่งเป็นช่องทางที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน นอกจากจะช่วยพลิกวิกฤตทางเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ OTOP ทั่วประเทศแล้วนั้น ยังจะสามารถแสดงศักยภาพและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ OTOP ไทย ให้เป็นที่นิยมของทั่วโลก จากการรวมพลังกันซื้อและใช้สินค้าฝีมือของคนไทย ซึ่งจะช่วยการันตีมาตรฐานผลิตภัณฑ์ OTOP ให้โลกได้รับรู้ เมื่อสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายลงแล้ว ก็จะนำไปสู่การเปิดตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์ OTOP ให้กว้างขึ้น รวมถึงยังเป็นการช่วยเหลือพี่น้องผู้ประกอบการ OTOP ในยามวิกฤตเช่นนี้ จะเห็นได้ว่า หากเราซื้อสินค้าโอทอปเพียง 1 ชิ้น ก็สามารถช่วยเหลือพี่น้องในชุมชนไม่น้อยกว่า 20 คน ถือเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดการหมุนเวียน การใช้จ่ายภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นกลไกทำให้กระบวนการทางเศรษฐกิจเชิงมหภาคในภาคอุปโภคและบริโภค ขับเคลื่อนเดินหน้า เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ขอเชิญชวนคนไทยร่วมกันอุดหนุนผลิตภัณฑ์โอทอป ที่มีคุณภาพฝีมือของคนไทย เพื่อเป็นการพลิกวิกฤต สร้างโอกาส สร้างรายได้ แก่พี่น้องผู้ประกอบการ OTOP โดยสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้โดยตรงกับผู้ผลิต ผู้ประกอบการของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ผ่านบนแพลตฟอร์ม OTOP Today (www.otoptoday.com) , ลาซาด้า Lazada (https://www.lazada.co.th/) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าว
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/