สุพรรณบุรี-กู้ภัยผัวเมียโพสต์เศร้า ผู้ป่วยปกปิดข้อมูล พบติดเชื้อโควิด
ภาพ/ข่าว:มงคล สว่างศรี
ผู้ป่วยปกปิดข้อมูล พบติดเชื้อโควิด กักตัวกู้ภัย 2 ผัวเมีย ด้านกู้ภัยเผยขอให้บอกความจริง จะได้ใส่ชุดป้องกันไปรับท่าน หลังพ้นการกักตัวเตรียมปรึกษาคณะกรรมการมูลนิธิเข้าแจ้งความเอาผิดกับญาติ
วันที่ 9 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟชบุ๊ค Phodsathon Thongdee ได้โพสต์เรื่องราวพร้อมข้อความว่า ขอประชาสัมพันธ์ นับตั้งแต่พรุ่งนี้ไป 7 วัน ห้ามผู้ใดเข้ามาใกล้ชิดผมนะครับ เนื่องจาก ผมได้ออกรับผู้ป่วย วันที่08/08/64 เมื่อเวลา 20.40 น.บ้านไผ่เดาะ ม.7 ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง ซึ่งผู้ป่วยมีผล swab (ผล บวก-เชื้อลงปอด) ซึ่งทางญาติ ปิดบังข้อมูลกับเรา และด้วยความประมาท ผมไม่ได้ใส่ชุดPPE ป้องกัน ใส่แต่แมส อย่างเดียว จึงทำให้ผมอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากได้สัมผัสผู้ป่วยโดยตรง ผมจึงขอกักตัว เพื่อรอผลตรวจจากทาง รพ.สมเด็จ.ฯ ครับ ได้ผลประการใดผมจะแจ้งให้ทราบ ครบกำหนดแล้ว เราไปเจอกันที่ สภ. นะ ครับญาติ งานนี้จบยากแน่นอนครับ
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันสุพรรณบุรี เขตอำเภอสองพี่น้อง ชุดที่ปฎิบัติงานในวันดังกล่าว ทราบว่าได้รับแจ้งจากศูนย์สังการ 1669 ให้รับผู้ป่วยรายหนึ่งเป็นชายอายุ 81 ปี สาเหตุลื่นล้มที่หมู่ 7 ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ให้นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบถามอาการ พร้อมสอบถามถึงความเสี่ยงในการรับเชื้อไวรัสโควิด ซึ่งก็ได้รับการปฎิเสธว่าไม่ได้เดินทางออกนอกพื้นที่หรือมีญาติมาจากพื้นที่เสี่ยงแต่อย่างได ศูนย์กู้ภัยจึงได้ส่งรถไปรับมาส่งยังโรงพยาบาล ระหว่าทางผู้ป่วยมีอาการช๊อกชีพพจรอ่อน จากการสอบถามโดยละเอียดจากทีมแพทย์กลับพบว่าผู้ป่วยดังกล่าวเบื้องต้นมีผลเป็นบวก จึงกักตัวเจ้าหน้าที่ภู้ภัยที่ปฎิบัติงานในวันดังกล่าว 2 ราย ซึ่งสามีภรรยากัน
ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงอยากฝากบอกไปยังผู้ป่วยที่รู้ว่ามีญาติหรือตนเองที่เสี่ยงในการติดเชื้อโควิด โปรดให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพราะมีเจ้าหน้าที่ใส่ชุด PPE และรถภู้ภัยที่เตรียมพร้อมสำหรับผู้มีความเสี่ยงรับเชื้อโควิด-19 ไว้อยู่แล้ว เพราะนอกจากท่านจะเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อแล้ว ยังทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องถูกกักตัว ไม่สามารถออกไปประกอบอาชีพของตนเองได้ ด้านกู้ภัยเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับทางญาติหลังปกปิดข้อมูลต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/