ศรีสะเกษ-ฮือฮาพระชายแดนไทย-เขมรแกะสลักจระเข้ยักษ์ “อารัก กอดาง”
ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข
ฮือฮาพระชายแดนไทย-เขมรแกะสลักจระเข้ยักษ์ “อารัก กอดาง” จากไม้ตะเคียนยักษ์ ชาวบ้านทราบข่าวแห่ไปขอโชคลาภ
เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักสงฆ์บ้านไทยถาวร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มีชาวบ้านแจ้งว่า พบพระสงฆ์แกะสลักไม้ตะเคียนยักษ์เป็นรูปร่างสุดทึ่ง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ พระบุญส่ง ปภากโร หรือหลวงพ่อบุญส่ง อายุ 64 ปี ประธานที่พักสงฆ์บ้านไทยถาวร กำลังขึ้นนั่งร้านแกะสลักไม้ตะเคียนยักษ์ เป็นรูปร่างท้าวเวสสุวรรณ ขนาดใหญ่ยักษ์ มีความสูงประมาณ 9 เมตร ฐานกว้างประมาณ 5 เมตร มือขวาถือไม้เท้าหัวสุนัข มือซ้ายถือลูกแก้วเปล่งแสง ซึ่งไม้ทั้งหมดที่นำมาแกะสลักล้วนแล้วแต่เป็นไม้ตะเคียนทั้งสิ้น ส่งผลทำให้ชาวบ้านสุดทึ่ง พร้อมขนลุกไปตามๆกัน เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่า หากใครแตะต้อง ตัด ผ่า ไม้ตะเคียน จะมีอันเป็นไปต่าง ๆ นาๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงกัน ยังพบไม้แกะสลักเป็นรูปจระเข้ยักษ์ขนาดใหญ่ ซึ่งแกะสลักจากไม้ตะเคียนทอง ขนาดลำตัวตั้งแต่หัวจรดหางยาวประมาณ 14 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร มีชื่อเป็นภาษาเขมรว่า “อารัก กอดาง” ชาวบ้านเห็นต่างพากันแตกตื่นพร้อมกราบไหว้ขอพร ขอโชคลาภ และอธิษฐานเดินลอดเข้าไปในปากจระเข้ทะลุผ่านลำตัวออกทางหางของจระเข้ เชื่อว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ และยังมีไม้ตะเคียนที่แกะสลักเป็นรูปหญิงสาว มีชื่อว่า แม่เนียง แก้วปทุม ซึ่งเป็นการแกะสลักจากไม้ตะเคียนทั้งต้นเช่นกัน
พระบุญส่ง ปภากโร หรือหลวงพ่อบุญส่ง อายุ 64 ปี ประธานที่พักสงฆ์บ้านไทยถาวรเล่าว่า ไม้ตะเคียนทุกต้น ถูกขุดพบภายในบริเวณที่พักสงฆ์แห่งนี้ ซึ่งต้นแรกคือ แม่เนียง แก้วปทุม ขุดพบเมื่อหลาย 10 ปีก่อน ต่อมาเมื่อปี 2562 ได้ขุดพบไม้ตะเคียนลักษณะลำต้นถูกไฟเผาไหม้ล้มแช่อยู่ในน้ำ จึงได้ทำพิธีนำขึ้นมา พร้อมออกแบบแกะสลักเป็นรูปร่างจระเข้ยักษ์ โดยนำไม้ตะเคียนที่เป็นผิวขรุขระจากการถูกไฟไหม้ มาทำเป็นเกล็ดจระเข้ ตั้งชื่อว่า “อารัก กอดาง” และเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ได้ขุดพบตอไม้ตะเคียนยักษ์ ขนาดใหญ่มาก อาตมาและชาวบ้านช่วยกันขุดนานกว่า 7 วัน ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ จึงได้ทำพิธีสวดมนต์อธิษฐานจิตขอเจ้าแม่ตะเคียนทอง ให้สามารถนำขึ้นมาได้อย่างราบรื่น เพื่อให้สาธุชนที่ศรัทธาได้ชื่นชมบูชา ตามความเชื่อส่วนบุคคล จากนั้นก็เกิดปาฏิหาริย์ไม้ตะเคียนที่หนักมากกลับกลายเป็นรู้สึกเบาและนำขึ้นมาได้โดยง่าย
หลวงพ่อบุญส่ง เล่าต่อไปว่า ต่อมาจึงเกิดแนวคิดแกะสลักเป็นรูปเป็นร่างของท้าวเวสสุวรรณ โดยอาตมาเป็นผู้ออกแบบลงมือแกะสลักเอง มีชาวบ้านมาช่วยกันยกช่วยกันจับจนเป็นรูปเป็นร่างแต่ยังไม่แล้วเสร็จ หลังชาวบ้านทราบข่าว ต่างพากันแห่เดินทางมากราบไหว้ขอพร ขอโชคลาภ ไม่ขาดสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงต้นเดือน และกลางเดือน เนื่องจากใกล้วันหวยออก รวมทั้งพากันแห่เดินทางมาสะเดาะเคราะห์ ลอดปากจระเข้กันอย่างคึกคัก
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/