นครปฐม-โควิด 19 -ประจำวันที่ 17 ส.ค. 64 พบผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 468 ราย
ภาพ/ข่าว:คัคเนศวร์ พรอัศวโยธิน
สถานการณ์โรคโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ประจำวันที่ 17 สิงหาคม 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 468 ราย
สถานการณ์โรคโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ ทีม SAT & SRRT ประจำวันที่ 17 สิงหาคม 2564 พบผู้ป่วยระลอกใหม่ รวมจำนวน 22,259 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ประจำวันนี้ ในจังหวัด จำนวน 468 ราย เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยในจังหวัด จำแนกรายละเอียดดังนี้ การเฝ้าระวังเชิงรุก 196 ราย การเฝ้าระวังเชิงรับ 272 ราย สัญชาติ ไทย 457 ราย อื่นๆ 11 ราย ในจังหวัด นฐ. 458 ราย นอกจังหวัด 10 ราย ค่าเฉลี่ยการพบผู้ป่วย ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา = 517 ราย ” แนวโน้มการระบาดคงตัว ” สัดส่วนเพศชาย : หญิง เท่ากับ 1:08 ผู้เสียชีวิต วันนี้ + 7 ราย รวมสะสมผู้เสียชีวิต 256 ราย อัตราป่วยตาย = ร้อยละ 1.15 อันดับของอำเภอ ดังนี้ 1. สามพราน =180 ราย ,2. ดอนตูม =96 ราย ,3. พุทธมณฑล =62 ราย ,4. เมือง =55 ราย ,5. บางเลน =27 ราย ,6. นครชัยศรี =22 ราย,7. กำแพงแสน =16 ราย ,นอกจังหวัด = 10 ราย , ในเรือนจำ = 0 ราย กลุ่มอายุที่พบมากได้แก่ ช่วงอายุ 21-30 ปี รองลงมาคือ 31-40 และ 41-50 ปี ตามลำดับ
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การดำเนินกิจกรรมรวมกลุ่ม กลุ่มการติดต่อกันภายในครอบครัว ในเพื่อนร่วมงาน สถานประกอบการ การติดจากบุคคลในครอบครัว ข้อเสนอแนะติดตามมาตรการวิเคราะห์แนวโน้มในทุกอำเภอ จัดทำมาตรการ
– เน้นการค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดสูง
– การแยกผู้ป่วยออกจากกลุ่มสัมผัสต่างๆ
– ลดการเดินทางไปยังแหล่งชุมชน สถานที่แออัด
– สำหรับหน่วยงานที่สามารถปฏิบัติงานที่บ้านได้ ขอให้เริ่มดำเนินการ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบการติดเชื้อในลักษณะครอบครัว และเพื่อนร่วมงานมากที่สุด จึงขอเน้นย้ำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกันในกิจกรรมต่างๆ
ในช่วงการระบาดนี้
ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ” ขณะนี้พบการติดเชื้อคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงานสูงถึงร้อยละ 54 ดังนั้น ทุกองค์กร หรือครอบครัวขอให้ใส่หน้ากากอนามัยให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยเฉพาะในที่ทำงานขอให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอด และอย่ากินข้าวร่วมกัน และอยู่ในบ้านที่มีผู้สูงอายุขอให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องพบท่าน ”
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/