สมุทรปราการ-ทนายเกรียงพาสองผู้เสียหายแจ้งดำเนินคดีเจ้าของโรงเรียนสอนขับรถปลอมเอกสาร
ภาพ/ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
ทนายเกรียงพาสองผู้เสียหายแจ้งดำเนินคดีเจ้าของโรงเรียนสอนขับรถปลอมเอกสาร
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 24 สิงหาคม 2564 ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความชื่อดังของสมุทรปราการ ได้พาผู้ปกครองของสองผู้เสียหายซึ่งเป็นเยาวชน อายุ 18 ปี และ น.ส.เอ (นามสมมุติ) เจ้าของโรงเรียนสอนขับรถแห่งหนึ่งในย่านถนนพุทธรักษา เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ เกี่ยวกับกรณีที่ถูก น.ส.บี (นามสมมุติ) เจ้าของโรงเรียนสอนขับรถแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ได้ปลอมแปลงเอกสารหนังสือรับรองการผ่านการอบรมหลักสูตรการอบรมสำหรับขอรับใบอนุญาตขับรถ 5 ชั่วโมง ของวิทยาเทคนิคกาญจนาภิเษกสมุทรปราการ โดยเรียกเก็บรายละ 1 พันบาท หลังจากที่ น.ส.เอ ได้นำเอกสารใบรับรองดังกล่าวไปยื่นให้สำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรราดารเพื่อให้ผู้เสียหายทั้งสองซึ่งเป็นเยาวชน ไปเข้าสอบทำใบขับขี่ตามขั้นตอนจนได้รับใบขับขี่มาแล้ว
ต่อมาไม่นานสำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ ได้ส่งหนังสือขอเพิกถอนใบขับขี่ผู้เสียหายทั้งสองไปถึงบ้าน เนื่องจากตรวจหนังสือรับรองการผ่านการอบรมหลักสูตรการอบรมสำหรับขอรับใบอนุญาตขับรถ 5 ชั่วโมงของวิทยาเทคนิคกาญจนาภิเษกสมุทรปราการ แล้วเป็นเอกสารปลอม โดยได้รับการยืนยันจากวิทยาลัยดังกล่าวแล้ว ว่าเป็นเอกสารอันเป็นเท็จปลอมแปลงเอกสารทางราชการและสำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ ได้แจ้งความให้ดำเนินคดีเอาไว้ที่ สภ.บางปู สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา จึงพากันเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ซึ่งเป็นทนายความ ก่อนที่จะพากันเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน สภ.บางปู ให้สอบสวนข้อเท็จจริงดำเนินคดีกับ น.ส.บี และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในข้อกล่าวหา ปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะทำกันเป็นกระบวนการ
น.ส.เอ เจ้าของโรงเรียนสอนขับรถย่านพุทธรักษา ได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา ผู้เสียหายทั้งสองได้มาสมัครเรียนขับรถที่โรงเรียนของตน หลังจากที่ตนสอนขับรถจนผ่านทุกขั้นตอน เหลือเพียงการเข้าอบรม 5 ชั่วโมงเท่านั้น ที่ตนยังไม่สามารถนำผู้เสียหายเข้าอบรมได้ เนื่องจากเดิมตนใช้สถานที่ของวิทยาลัยสารพัดช่างของจังหวัดสมุทรปราการ เป็นสถานที่อบรม แต่เนื่องจากในช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่โควิดกำลังระบาดและภาครัฐได้ประกาศห้ามให้มีการอบรม ซึ่งได้มีการแจ้งให้ผู้ปกครองของผู้เสียหายทราบแล้ว แต่ต่อมาได้มี น.ส.บี เจ้าของโรงเรียนสอนขับรถที่รู้จักกันได้เสนอตัวว่าสามารถจัดให้อบรมได้ แต่มีค่าใช้จ่ายรายละ 1 พันบาท ตนจึงแจ้งให้ทางผู้เสียหายทราบและมอบเอกสารทั้งหมดให้ น.ส.บี ไปโดย น.ส.บี ได้บอกว่าจะติดต่อกับผู้เสียหายเอง เวลาผ่านไปไม่นาน น.ส.บี ได้ส่งเอกสารใบรับรองผ่านการอบรมหลักสูตรสำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจำนวน 5 ชั่วโมง ที่ศธ 2564 / 4336 ลงวันที่ 28 กุมภาพัน 2564 ของวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกสมุทรปราการ มาให้ และในวันที่ 28 มิถุนายน ตนได้พาผู้เสียหายทั้งสองไปสอบทำใบอนุญาตขับขี่ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ โดยนำเอกสารใบรับรองผ่านการอบรม ที่น.ส.บี ให้มายื่นเป็นหลักฐานต่อขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ จนผู้เสียหายได้รับใบอนุญาตขับขี่ไปเป็นที่เรียบร้อย
ต่อมาในวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ ได้มีหนังสือ แจ้งขอเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของผู้เสียหายทั้งสองและให้ส่งคืนใบอนุญาตขับขี่ ไปที่บ้านของบ้านผู้เสียหายโดยแจ้งว่า หลังจากที่มีการตรวจสอบหนังสือรับรองฉบับดังกล่าวแล้ว และได้รับการยืนยันจากวิทยาลัยที่ออกหนังสือรับรองแล้วพบว่า เป็นเอกสารอันเป็นเท็จที่ปลอมแปลงเอกสรรทางราชการ และได้มีการแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู เอาไว้แล้ว ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ จึงเชื่อว่า น.ส.บี น่าจะเป็นผู้ปลอมแปลงเอกสารฉบับดังกล่าว จึงได้เข้าขอความเป็นธรรมกับทนายความ ก่อนพากันมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางปู เพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีกับ น.ส.บีและผู้ที่เกี่ยวข้อง
ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ กล่าวว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายคือ น.ส.เอ เจ้าของโรงเรียนสอนขับรถย่านแพรกษา มาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมพร้อมด้วยผู้ปกครองของผู้เสียหายทั้งสอง มาให้ปากคำในฐานพยานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.บี เจ้าของโรงเรียนสอนขับรถแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ เกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม ซึ่งจากการสอบถามไปยังขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ ทราบว่าก่อนหน้านี้ได้รับการประสานมาจากขนส่งสามพรานจังหวัดนครปฐม ให้ตรวจสอบเกี่ยวกับการออกหนังสือรับรองการผ่านการอบรมหลักสูตร 5 ชั่วโมง เพื่อขอทำใบอนุญาตขับขี่ ที่ออกโดยวิทยาลัยกาญจนาภิเษก สมุทรปราการ หลังจากมีการตรวจไปทางวิทยาลัยที่ถูกกล่าวหาแล้ว ยืนยันว่าเป็นเอกสารปลอม จึงเชื่อได้ว่า น.ส.บี เจ้าของโรงเรียนสอนขับรถรายดังกล่าวน่าจะเป็นคนปลอมแปลงเอกสาร และน่าจะทำกันเป็นกระบวนการ เพราะมีการปลอมทั้งตราประทับและรายเซ็น ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่านอกจากจังหวัดนครปฐมแล้วยังมีที่จังหวัดเพชรบุรี อีกที่มีการปลอมใบรับรองผ่านการอบรม โดยเฉพาะในจังหวัดสมุทรปราการ ทราบจากพนักงานสอบสวนว่ามีผู้เสียรายอื่น ๆ อีกกว่าสิบรายที่สำนักงานขนส่งมาแจ้งดำเนินคดีไว้ เกี่ยวกับใบรับรองจากที่เดียวกัน จึงอยากให้มีการตรวจสอบว่ามีใครบ้างที่ในร่วมกระบวนการนี้ เนื่องจากมีการกระทำลักษณะนี้อยู่หลายจังหวัด
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/