นครปฐม-โควิด 19 ประจำวันที่ 7 กันยายน 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 167 ราย
ภาพ/ข่าว:คัคเนศวร์ พรอัศวโยธิน
จังหวัดนครปฐมสถานการณ์โรคโควิด 19 ประจำวันที่ 7 กันยายน 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 167 ราย
สถานการณ์โรคโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ ทีม SAT & SRRT ประจำวันที่ 7 กันยายน 2564 พบผู้ป่วยระลอกใหม่ รวมจำนวน 29,570 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ประจำวันนี้ในจังหวัด จำนวน 167 ราย เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยในจังหวัด จำแนกรายละเอียดดังนี้ การเฝ้าระวังเชิงรุก 86 ราย การเฝ้าระวังเชิงรับ 81 ราย สัญชาติ ไทย 151 ราย อื่นๆ 16 ราย ในจังหวัด นฐ. 157 ราย นอกจังหวัด 10 ราย ค่าเฉลี่ยการพบผู้ป่วย ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา 254 ราย ” แนวโน้มการระบาดลดลง ” สัดส่วนเพศชาย : หญิง เท่ากับ 1:1.09 ผู้เสียชีวิต วันนี้ เพิ่ม 7 ราย รวมสะสมผู้เสียชีวิต 430 ราย อัตราป่วยตาย ร้อยละ 1.45
อันดับของอำเภอ ดังนี้
1. บางเลน = 59 ราย
2. กำแพงแสน = 38 ราย
3. เมือง = 20 ราย
4. พุทธมณฑล = 19 ราย
5. สามพราน = 13 ราย
6. นครชัยศรี = 5 ราย
7. ดอนตูม = 3 ราย
นอกจังหวัด = 10 ราย
ในเรือนจำ = 0 ราย
กลุ่มอายุที่พบมากได้แก่ ช่วงอายุ 21-30 ปี รองลงมาคือ 31-40 และ 41-50 ปี ตามลำดับ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือการดำเนินกิจกรรมรวมกลุ่ม กลุ่ม การติดต่อกันภายในครอบครัว ในเพื่อนร่วมงาน สถานประกอบการต่างๆ ข้อเสนอแนะติดตามมาตรการ วิเคราะห์แนวโน้มในทุกอำเภอและแนะนำประชาชนปฏิบัติตนตามแนวคิด Universal Prevention ได้แก่
1. ออกจากบ้านเมื่อจําเป็นเท่านั้น
2. เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ในทุกสถานที่
3. สวมหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลา ทั้งที่อยู่ในและนอกบ้านที่มีคนมากกว่า 2 คน
4. ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ส้วม ไอจาม หรือสัมผัสวัตถุ/สิ่งของ ที่ใช้ร่วมกัน
5. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าที่สวมใส่อยู่ รวมทั้งใบหน้า ตา จมูก ปาก โดยไม่จําเป็น
6. ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี และผู้มีโรคเรื้อรัง หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน เว้นแต่จําเป็น(น้อยครั้งและใช้เวลาสั้นที่สุด)
7. ทําความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้หรือสิ่งแวดล้อมด้านกายภาพ
8. แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่น
9. เลือกทานอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่ ควรทานอาหารแยกสําหรับ หากทานร่วมกันให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัว
10. หากสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง เช่น สัมผัสผู้ที่อาจติดเชื้อ หรือมีอาการ ควรได้รับการตรวจด้วย ATK บ่อย ๆ เพื่อยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ หรือไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน
ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ” ขณะนี้พบการติดเชื้อคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงานสูงถึงร้อยละ 54 ดังนั้น ทุกองค์กร หรือครอบครัวขอให้ใส่หน้ากากอนามัยให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยเฉพาะในที่ทำงานขอให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอด และอย่ากินข้าวร่วมกัน และอยู่ในบ้านที่มีผู้สูงอายุขอให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องพบท่าน ”
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/