ประจวบคีรีขันธ์-รวบแล้วคนร้ายขโมยหลวงพ่อในกุฏิ ตำรวจนำตัวทำแผน

ภาพ/ข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา

                 รวบแล้วคนร้ายขโมยหลวงพ่อในกุฏิ ตำรวจนำตัวทำแผน คนร้ายอ้างชอบส่วนตัวอยากนำไปบูชา

              จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายขโมยรูปหล่อหลวงพ่อในกุฏิ ขนาดหน้าตักกว้าง 7 นิ้ว มูลค่า 4-5 หมื่นบาท จากตู้ตั้งบูชาในสำนักงานมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี เมื่อใกล้รุ่งวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพขณะเข้าขโมย และตอนที่มาดูลาดเลาเอาไว้ได้
                ต่อมา เมื่อเวลา 13.000 น. วันที่ 3 มิถุนายน 2563 พ.ต.อ.สมชาญ พิณคันเงิน ผกก.สภ.กุยบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.สำราญ มาลาลักษมี สว.สส.สภ.กุยบุรี พ.ต.ท.หญิงเบญจมาส เทียนทอง พนักงานสอบสวน และกำลังชุดสืบสวน ได้ร่วมกันนำตัวนายณัฐวุฒิ (ณัฐ) เตี้ยแจ้ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาพร้อมของกลางเป็นรูปหล่อหลวงพ่อในกุฏิ หน้าตักกว้าง 7 นิ้ว และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ดรีม สีฟ้า ทะเบียน 1กง 9657 ประจวบคีรีขันธ์ ที่ใช้เป็นพาหนะในวันก่อเหตุ มาทำแผนประกอบการรับสารภาพ ที่สำนักงานมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ท่ามกลางการมุงดูของชาวบ้านและลูกศิษย์ที่เคารพบูชาหลวงพ่อในกุฏิ เป็นจำนวนมาก ต่างตะโกนสาปแช่งอยู่ตลอดเวลา
                สำหรับคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบจากกล้องวงจรปิด ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่คนร้ายมาดูลาดเลา โดยคนร้ายหลังจากเข้ามาในวัดกุยบุรี แวะที่สำนักงานมูลนิธิฯก็เดินต่อไปยังสี่แยกกุยบุรี ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านค้าจับภาพได้อย่างชัดเจน จึงได้จัดส่งชุดสืบสวนไปเฝ้าที่บ้านบิดาของผู้ต้องหา 2 วัน แต่ไม่พบ ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบว่าผู้ต้องหาอยู่ที่บ้านเพื่อนจึงได้ทำการขอตรวจปัสสาวะ เนื่องจากผู้ต้องหาเคยมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด ซึ่งก็พบว่าฉี่เป็นสีม่วง จึงได้นำตัวมาทำสอบสวนเพิ่มเติม จนนายณัฐ ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนเดียวกันกับในภาพวงจรปิด และได้ขโมยรูปหล่อหลวงพ่อในกุฏิ ไปซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าที่บ้านของบิดา
               จนในช่วงเช้าวันนี้ ( 3 มิถุนายน 63) นายณัฐ ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปที่บ้านของบิดา เพื่อไปเอาพระที่ซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้า จากนั้นจึงนำตัวนายณัฐ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเป็นที่พอใจของบรรดาชาวบ้านที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำพระคู่บ้านคู่เมืองกุยบุรีกลับมาคืนได้
นอกจากนี้ผู้ต้องหาให้การกับผู้สื่อข่าวว่า ตนขโมยพระรูปหล่อหลวงพ่อในกุฏิไปนั้น ทำด้วยความชอบส่วนตัว ไม่มีใบสั่งแต่อย่างใด

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/