ราชบุรี-ปทส.จับมือป่าไม้ ร่วม‘วีระ’ ตรวจสอบที่ดิน‘ทวี’
ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)
ปทส.จับมือป่าไม้ ร่วม “วีระ’”ตรวจสอบที่ดิน “ทวี”
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 มิ.ย.63 พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผบก.ปทส. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศราณุ โสมทัต ผกก.5 บก.ปทส พร้อมพนักงานสอบสวน บก.ปทส. พนักงานสอบสวน สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปทส. นายสุชาติ บัวบาง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ. 3 (พุยาง) นายชนันต์ อินทรักษ์ ปลัดอาวุโสอ.สวนผึ้ง เจ้าหน้าที่ป่าไม้จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่สปก.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร และนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ในฐานะผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นำหมายค้นศาลจังหวัดราชบุรี ที่ 74/2563 ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2563 ระบุว่าให้ค้นสถานที่บริเวณบ้านหนองมะค่า หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ,อาคารสิ่งปลูกสร้างพื้นที่ ปรากฏตามแผนที่แนบท้ายหมายค้น เพื่อพบและยึดสิ่งของ อาคารสิ่งปลูกสร้างพื้นที่ถูกบุกรุก ตลอดจนเครื่องจักรและเครื่องมือในการกระทำความผิด , ซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา , และเพื่อทราบจำนวนที่ดิน ประเภทที่ดิน และแนวเขตที่ดินแปลงที่เกิดเหตุ
โดยพื้นที่เข้าตรวจค้นเป็นพื้นที่ๆ นายทวี ไกรคุปต์ บิดา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ถือครองทำประโยชน์ แต่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น (คปต.) ได้แจ้งความที่สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ให้ดำเนินคดีกับนายทวี ไกรคุปต์ บิดา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพราะเชื่อว่ามีการบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามคดีอาญาที่ 419 / 2562 และ420/ 2562 ต่อมาทางศูนย์ป่าไม้ราชบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจที่ดินบริเวณดังกล่าวพบว่ามีการบุกพื้นที่ของรัฐ รวมทั้งหมด 7 แปลงมีพื้นที่จำนวน 1,039 ไร่ 2 งาน 92 ตารางวา เป็นพื้นที่ถูกบุกรุกถือครองจำนวน 5 แปลง (จากทั้งหมด 7 แปลง) อยู่ในเขตพื้นที่กรมป่าไม้ดูแลรับผิดชอบ เนื้อที่รวม 392 – 3- 32 ไร่ แปลงที่ 1 พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเนื้อที่ 17-0-68 ไร่ ลักษณะการถือครองทำถนน แปลงที่ 2 พื้นที่ป่าไม้ถาวร เนื้อที่ 207-3-68 ไร่ ลักษณะการถือครอง บ้านพัก 1 หลัง บ่อเลี้ยงจระเข้ 3 บ่อ จระเข้กว่า 1,000 ตัว โรงงานแปรรูปไม้ 1 โรง เลื่อยวงเดือน ขนาด 5 แรงม้า 24 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง แปลงที่ 3 พื้นที่ป่าไม้ถาวร เนื้อที่ 39- 0 -48 ไร่ ลักษณะการถือครอง ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ แปลงที่ 4 พื้นที่ป่าไม้ถาวร เนื้อที่ 126-3-64 ไร่ ลักษณะการถือครอง ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ แปลงที่ 5 พื้นที่ป่าไม้ถาวร เนื้อที่ 1-2-84 ไร่ ลักษณะการถือครอง ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์
นอกจากนี้ทางบก.ปทส.ได้ทำการสอบสวนคดีอาญาที่ 2/2563 และ 3/2563 ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอนุญาตให้สอบสวนคดีอาญาที่ 419/2562 และ 420/2562 ของสถานีตำรวจภูธรสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ระหว่างนายวีระ สมความคิด กับนายทวี ไกรคุปต์ ฐานความผิด ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 4 (1) 54, 55 , 72 ตรี ประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ. 2497 มาตรา 2 , 9, 108 ทวิ พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 , 31 และพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 มาตรา 16 , 36 ทวิ บริเวณท้องที่ หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจึงมีความจำเป็นต้องเข้าตรวจสอบประเภทที่ดิน รังวัดพื้นที่ จำนวนเนื้อที่ดินและตำแหน่งที่ดินบริเวณโดยรอบแปลงที่ดินในวันนี้
จากการเข้าพื้นที่ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่เดินจากประตูริมถนนสายราชบุรี-สวนผึ้ง ไปประมาณ 100 เมตร ก็ได้กลิ่นเหม็นคละคลุ้ง เมื่อตรวจสอบบริเวณคูน้ำในป่าละเมาะพบซากของกะโหลกสัตว์ ที่มีความคล้ายคลึงกับสุนัข กองโครงกระดูกของสัตว์ และพบลังน้ำแข็งใช้สำหรับแช่ซากไก่ตายเพื่อเป็นอาหารจระเข้ถูกทิ้งส่งกลิ่นเหม็นอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบตู้แช่เย็นและข้างตู้แช่ในบ่อมีเอกสารสำคัญทางราชการหลายรายการ อาทิหมายศาลที่เชิญบุคคลที่เกี่ยวของกับนายทวี และ น.ส.ปารีณา ไปไกล่เกลี่ยที่ศาล และพบเอกสารเกี่ยวกับการเช่าที่ดินอีกหลายรายการ หลังโฉลดพบมีชื่อน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ เป็นผู้ที่ครอบครอง เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมเป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบ
จากนั้นเดินเข้าตรวจสอบโรงเลื่อยไม้ และตรวจสอบบ่อเลี้ยงจระเข้เป็นบ่อซีเมนต์ ตามที่ขออนุญาตเลี้ยงไว้กับทางกรมประมงจำนวน 1,050 ตัว พบว่าภายในบ่อยังมีการเลี้ยงจระเข้อยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายภาพและบันทึกรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปเพื่อดำเนินการต่อไป
นายวีระ สมความคิด กล่าวว่า ทางหัวหน้าพนักงานสอบสวนทำหนังสือถึงตนเองตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอความร่วมมือให้พามาชี้พื้นที่อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้าที่เคยเดินทางมาแล้วตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค.63 วันนี้จะเริ่มเข้ามารังวัดอย่างละเอียดเป็นหน้าที่ของทางป่าไม้ และให้ตนเองในฐานะที่เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษมาชี้ที่ดินที่กล่าวโทษนั้นมีจุดไหนบ้าง ซึ่งคงมี 3 จุด เช่น จุดริมถนน และออกไปอีกใกล้มีอีก 2 แปลง ทางเจ้าหน้าที่ ปทส.ได้ออกหนังสือเชิญมาช่วยชี้พื้นที่ในฐานะผู้ร้อง ส่วนที่ดินเท่าที่ตรวจสอบมีการครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็น สค. 1 หรือ นส. 3 แต่ที่แปลงนี้เขาอ้างว่ามีโฉนดนิดเดียวจริงหรือไม่ไม่รู้ อีกทั้งก็ไม่เคยเอาเอกสารสิทธิ์มายืนยันได้เลย โดยเฉพาะ นส.ปารีณานั้น มาชี้ที่ดินที่ได้ไปแจ้งกับ ปปช.ว่ามีที่ดิน 1,706 ไร่ นั้นก็ไม่ยอมพาไปชี้ แต่ยังยืนยันว่ามีที่ดินอยู่จริง แต่พอตำรวจบอกให้มาชี้ก็ไม่ยอมมา ซึ่งจะผิดกับกรณีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งตำรวจบอกให้พาไปชี้จุดก็ได้ส่งคนพาไปชี้จุดเลยสามารถนำชี้ได้หมด ส่วนกรณีนายทวีเท่าที่ทราบได้มีการออกหมาย ซึ่งมีการอ้างว่าต้องมีการรังวัดให้ละเอียดก่อนจึงจะรู้ว่าบุกรุกเท่าไหร่ แล้วจึงจะแจ้งข้อหา และมีหมายเรียกให้นายทวีมาพบ ทางตำรวจอ้างอย่างนั้น
ด้าน พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผบก.ปทส. กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนได้มาดูทีดินที่เกิดเหตุโดยการขอหมายค้น ซึ่งได้มีการเชิญนายทวี ไกรคุปต์ มาร่วมด้วย แต่ถ้าไม่มาจะให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ ปลัดอำเภอ ซึ่งเป็นผู้ปกครองท้องที่ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย ว่ามีเนื้อที่เท่าไหร่บ้าง มีการทำหนังสือแจ้งทั้งนายทวี และน.ส.ปารีณา แต่ก็ไม่มา วันนี้จะดูพื้นที่ละเอียด เพราะของเดิมกรมป่าไม้จะไม่ยุ่งกับพื้นที่ ส.ป.ก. ถ้าวันนี้มีที่ดิน ส.ป.ก.ควบอยู่ ป่าไม้ก็จะรังวัดทั้งหมดและกล่าวหาจำนวนเนื้อที่เพิ่มจาก ส.ป.ก. เหมือนครั้งที่แล้วคล้ายๆกับของน.ส.ปารีณา เนื้อที่จากน้อยก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก ได้ประสานกับอธิบดี ประสานจากส่วนกลางลงมา ปัญหามีคือส่วนกลางยังไม่เคยเข้าพื้นที่จึงต้องมีการประชุมกันก่อน และจะถ่ายภาพทางอากาศ โดยใช้โดรนขึ้นบินจะได้เดินง่ายขึ้น เพราะพื้นที่จะดูไม่ออกว่าตรงไหนเป็นเขต ส.ป.ก. ตรงไหนเป็นเขตป่าสงวน แนวเขตอยู่แค่ไหนโดยคณะที่มาตรวจสอบพื้นที่ดินจะเป็นส่วนกลางที่เคยมาตรวจที่ดินของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ การเข้าตรวจสอบครั้งนี้เจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลที่นำชี้พื้นที่ในวันนี้ไปพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องของคดีต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/
