สตูล-คนไทยในประเทศมาเลเซีย ไม่กลับไทย

ภาพ/ข่าว:ชิดชนก   พุดทอง

                  คนไทยในประเทศมาเลเซีย ไม่กลับไทย หลังประเทศผ่อนปรน ขณะด่านมาเลย์-ปิดยาวถึงสิ้นเดือนสิงหาฯ ..ฝั่งสตูลปรับแผนสแกนโควิด- 19 หลังมหาดไทยสั่งระงับการใช้ด่านถาวร (ท่าเรือตำมะลัง) ไปรวมที่เดียว

                วันที่ 8 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณชายแดนวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล เจ้าหน้าที่ที่ทำงาน ถึง 30 คนหลายหน่วยงานยังคงภารกิจหน้าที่ดูแลสแกนโรคโควิด- 19 อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสถานการณ์ในประเทศไทยคลี่คลายและผ่อนปรนไปเรื่อยๆ รวมทั้งต้องปรัยบเพียงเล็กน้อยที่จะเริ่มอาจจะรับคนไทยในมาเลเซียที่จะเดินทางเข้ามาทางด่านเดียวคือวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล
ล่าสุดเองนั้นนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสั่งการ และประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ได้ลงนามให้มีการระงับใช้ จุดผ่านแดนถาวร (ท่าเรือตำมะลัง) เพื่อการเดินทางกลับเข้ามา ในราชอาณาจักรของบุคคลสัญชาติไทยจากประเทศมาเลเซีย  ตามที่จังหวัดสตูลเสนอขอระงับ ใช้จุดผ่านแดนถาวรสตูล (ท่าเรือตำมะลัง) เพื่อให้บุคคล สัญชาติไทยเดินทางกลับเข้าราชอาณาจักร จากประเทศมาเลเซีย เนื่องจากมีผู้เดินทาง ผ่านช่องทางดังกล่าวน้อย และต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานเป็นจำนวมาก
สำนักงานเลขาธิการ ศูนย์บริหารสถานการณ์การ แพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ประชุมพิจารณาข้อเสนอข้างต้น และเห็นชอบให้ระงับใช้ จุดผ่านแดนถาวรสตูล (ท่าเรือตำมะลัง) ตามที่จังหวัดเสนอ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน นี้เป็นต้นไป  ขณะที่จุดผ่านแดนถาวร (วังประจัน) อ.ควนโดน จ.สตูล ยังคงไว้ แม้ล่าสุดจะมีคนไทยในมาเลเซียมีสัดส่วนเดินทางกลับน้อยลง ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ (8 มิ.ย.63) มีคนไทยลงทะเบียนเดินทางกลับเพียง 5 คนจากโควตา 50 คน โดยจัดความพร้อมตลอดเวลา  ล่าสุดทางการประเทศมาเลเซียเองนั้นก็เลื่อนปิดพรมแดนไปอีกถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อควบคุมการแพร่ละบาดโควิด- 19 ต่อไป
ด้านคนไทยในประเทศมาเลเซียจากที่ทำหนังสือกลับมายังประเทศไทย บางส่งรายชื่อมาแต่พอถึงเวลากลับไม่เดินทางกลับมา บ้างอ้างว่าเอกสารติดขัด และบางรายทางการประเทศมาเลเซียผ่อนปรนหลายอย่างก็ขอทำงานต่อไปกลับมายังประเทศไทย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/