อยุธยา-สทนช.พอใจผลงานศูนย์ฯ น้ำส่วนหน้าภาคกลาง ลดผลกระทบกับประชาชนได้มาก
อยุธยา-สทนช.พอใจผลงานศูนย์ฯ น้ำส่วนหน้าภาคกลาง ลดผลกระทบกับประชาชนได้มาก
ภาพ /ข่าว :นราเอก ตันศิริ : นพดล บำเพ็ญสัตย์
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ที่โครงการส่งน้ำและบํารุงรักษาบางบาล ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ภาคกลาง และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ครั้งที่ 40/2566 โดยมีนายประทีป การมิตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองบัญชาการกองทัพไทย และกรมประชาสัมพันธ์ เข้าร่วมประชุม
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ภายหลังการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลางเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566 ตลอดระยะเวลาที่ได้ดำเนินการมาประมาณเดือนครึ่ง คณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำฯ ได้บูรณาการทำงานตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 และ 3 มาตรการเพิ่มเติมเพื่อรองรับสภาวะเอลนีโญอย่างเคร่งครัดและเป็นเอกภาพ มีการประชุมกันทุกวัน เพื่อติดตาม ประเมินสถานการณ์น้ำ และวางแผนบริหารจัดการน้ำ ตลอดจนจัดจราจรทางน้ำเพื่อที่จะควบคุมการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาไม่ให้เกิน 1,800 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที จนสามารถบริหารจัดการมวลน้ำในพื้นที่ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี บรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ชุมชน พื้นที่เกษตรกรรม ตลอดจนแก้ไขปัญหาที่ยากให้ผ่านพ้นไปได้อย่างน่าพอใจ
นอกจากนี้ ยังได้มีการลงพื้นที่ทำประชาคมรับฟังความเห็นในการรับน้ำเข้าไปกักเก็บไว้ในทุ่ง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรเป็นอย่างดี ทำให้สามารถบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจและพื้นที่สำคัญๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันน้ำที่ปล่อยเข้าทุ่งยังช่วยตัดวงจรการระบาดของแมลงศัตรูข้าว ช่วยไล่หนู กำจัดวัชพืชและยังเป็นการเติมปุ๋ยธรรมชาติเพิ่มความอุดมสมบรูณ์ให้กับดิน รวมทั้งยังเป็นแหล่งเพาะพันธ์ปลาอีกด้วย โดยสามารถรับน้ำเข้าทุ่งบางระกำจนถึงปัจจุบันมีปริมาณน้ำจำนวน 368.21 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) และ 10 ทุ่งเจ้าพระยาตอนล่างมีปริมาณรวมกัน 326.50 ล้าน ลบ.ม.
อย่างไรก็ตามจากการประเมินสถานการณ์น้ำในขณะนี้ตลอดจนปริมาณฝนตกในพื้นที่ลดลง ไม่ส่งผลกระทบต่อ ปริมาณน้ำในพื้นที่ ระดับน้ำล้นตลิ่งในลุ่มน้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มลดลง รวมทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ก็มีปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สามารถควบคุมและบริหารจัดการให้อยู่ในสภาวะปกติ ในวันที้ที่ประชุมจึงมีมติขอยุติการดำเนินงานของศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป โดย สทนช. จะนำข้อเสนอแนะของหน่วยงานต่างๆในคณะทำงานฯ และความเห็นของพี่น้องประชาชนไปวางแผนปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น รวมถึงจะรายงานผลให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) รับทราบอย่างเป็นทางการ ซึ่งหลังจากนี้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการการสำรวจ ตรวจสอบความเสียหาย และฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็วต่อไป