ชลบุรี-สำนักงาน ป.ป.ช. ลงพื้นที่สำรวจรีสอร์ทหรูรุกที่บนเขาแสมสาร

ชลบุรี-สำนักงาน ป.ป.ช. ลงพื้นที่สำรวจรีสอร์ทหรูรุกที่บนเขาแสมสาร

ชลบุรี-สำนักงาน ป.ป.ช. ลงพื้นที่สำรวจรีสอร์ทหรูรุกที่บนเขาแสมสาร

ภาพ/ข่าว:นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล ทิพย์ศรี

วันที่ 25 เม.ย.66 ที่โรงแรมราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นางจันทิรา จิตรชื่น เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ,สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 2 พร้อมคณะสื่อมวลชนเข้าร่วมโครงการ “สื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักงาน ป.ป.ช.ครั้งที่ 2” โดยมี นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานในพิธีเปิด และดำเนินกิจกรรม มีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. สื่อมวลชนทั้งจากส่วนกลางและพื้นที่จังหวัดชลบุรี ผู้แทนจากฐานทัพเรือสัตหีบ และ อบต.แสมสาร เข้าร่วมเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และสื่อมวลชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
                  สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการอภิปรายในประเด็น ” รีสอร์ทหรูรุกที่บนเขาแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดย นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายสุพจน์ ศรีงามเมือง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 2 นายกิจติพงศ์ ขลิปแย้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชลบุรี และนายสุทธิรักษ์ อุฒมนตรี บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวเนชั่น เข้าร่วมอภิปรายในครั้งนี้ ถึงการรุกที่บนเขาแสมสารสร้างรีสอร์ทหรูถึง 6 หลัง ได้มีขั้นตอนการขออนุญาตอย่างถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องจะต้องมีการดำเนการตามขั้นตอนของกฏหมายอย่างไร ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นอย่างยิ่ง

จากนั้นได้นำคณะพร้อมสื่อมวลชน ลงพื้นที่สำรวจรีสอร์ทหรูรุกที่บนเขาแสมสาร โดยมีเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมในการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ด้วย โดย ป.ป.ช. ได้นำโดรนบินสำรวจทางอากาศ และกองทัพเรือจัดเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งเข้าสำรวจทางทะเล เนื่องจากพื้นที่สร้างรีสอร์หรูบนเขาแสมสารแห่งนี้อยู่บนที่สูงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์และความมั่นคงทางทหาร ได้รอบตัวแบบ 360 องศา โดยทางเจ้าของรีสอร์ทได้ปิดประกาศ “ปิดกิจการ ห้ามบุคคลภายนอกเข้า”
                นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ได้นำสื่อมวลชนลงมาดูพื้นที่ในการปฏิบัติงานของ ป.ป.ช. ซึ่งการทำงาน ป.ป.ช.มีการทำงานอยู่ 2 กรณีในปัจจุบันคือ นโยบายเกี่ยวกับการป้องปรามและนโยบายการปราบปราม วันนี้ลงพื้นที่เชิงป้องปราม สืบเนื่องจากข้อมูลต่างๆ ทางโซเชียลที่สื่อมวลชนลงว่า มีการก่อสร้างรีสอร์ทหรู บุกรุกที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะเป็นที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของทางกองทัพเรือ ที่แสมสาร เราเริ่มลงมาตรวจสอบแล้วและได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพบว่าเมื่อช่วงเช้าที่อภิปรายกันนั้น ได้มีการชี้แจงแล้วซึ่งกองทัพเรือ ไม่ได้เพิกเฉยได้มีการดำเนินการแจ้งให้ทางบุคคลที่มาบุกรุกทราบถึงการเข้าครอบครองที่ดิน ที่ไม่ชอบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และได้ไปแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดี ในกรณีบุกรุกพื้นที่ในเขตราชพัสดุ ซึ่งอยู่ในความครอบครองของกองทัพเรือ นอกจากนี้ได้มีการประสานงานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบต.แสมสาร เพื่อให้มีการดำเนินการตรวจสอบว่าพื้นที่ดังกล่าวที่มีการก่อสร้างโรงแรมหรูที่เป็นแคปซูล มีการขอใบอนุญาตหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่าไม่มีใบอนุญาต และทาง อบต. แสมสาร ได้ดำเนินการแจ้งให้ผู้บุกรุกทราบเพื่อให้ดำเนินการแล้ว
                วันนี้ เราติดตามพร้อมนำสื่อมวลชนลงมาดูและติดตามผลการดำเนินการเกี่ยวกับการเฝ้าระวัง เพื่อให้สื่อมวลชนได้ช่วยเฝ้าระวังและติดตามข่าวว่า หลังจากที่เรามาลงพื้นที่แล้วว่ามีการเคลื่อนไหวหรือมีการดำเนินการในเรื่องนี้ไปมากน้อยเพียงใดอย่างไรบ้าง ซึ่งวันนี้มีความคืบหน้าแต่ยังไม่มีการรื้อถอนออกไป เพราะคู่กรณีทางผู้บุกรุกอ้างใช้สิทธิ์อุธรณ์คำสั่งของ อบต. แสมสาร ในคดีที่แจ้งให้ระงับการก่อสร้าง จากการตรวจสอบทราบว่าได้มีการยื่นขอใบอนุญาตขอใช้พื้นที่ แต่กองทัพเรือยังไม่ได้นุญาต และมีการดำเนินก่อสร้างการต่อโดยอ้างว่าที่สร้างขึ้นมานี้ไม่ใช่สิ่งปลูกสร้าง เนื่องจากตัวโรงแรมเป็นห้องพักแบบแคปซูลที่นำมาวางเหมือนตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 6 หลัง ในพื้นที่อยู่ด้านบนที่เห็นภาพอยู่ แต่จากการตรวจสอบคำว่า “อาคาร” จะกินความหมายไปถึงสิ่งปลูกสร้าง แม้ไม่ใช่เป็นสิ่งปลูกสร้างถาวร เป็นการนำมาตั้งก็ถือว่าเป็นอาคารที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ได้มีการแจ้ง อบต.แสมสาร ซึ่งเมื่อเช้าทาง รองนายก อบต.แสมสาร ได้มาร่วมรับฟังการชี้แจงและรับทราบถึงผลการดำเนินการแล้ว ว่าจะต้องมีการดำเนินการตามข้อกฎหมายต่อไป และเมื่อแจ้งไปแล้วหากเขาไม่ดำเนินการอะไร ก็ต้องมีการขับไล่และให้มีการรื้อถอนต่อไป
                นายนิวัติไชย เกษมมงคล กล่าวต่ออีกว่า เราได้พยายามที่จะติดตามในคดีเคสพวกนี้ ในเรื่องที่มีการดำเนินการปลูกสร้างลุกล้ำที่หลวง ซึ่งที่หลวงไม่ว่าจะเป็นที่ป่า ที่อุทยาน ทาง ป.ป.ช.นับว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นที่ประโยชน์สาธารณะ คนที่ใช้พื้นที่นี้ได้คือประชาชน สาธารณะด้วย เพราะฉะนั้นที่ทางราชการได้สงวนหวงห้ามเอาไว้เป็นที่ป่าไม้ เพื่อประโยชน์ของสาธารณะหรือประโยชน์ของทางราชการ การที่เอาไปใช้ในส่วนตัวแล้วไปเก็บเงินเป็นค่าเช่าโรงแรมค่าอะไรต่างๆ เพื่อแสวงหารายได้ ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะเป็นสิ่งของที่ต้องใช้ร่วมกัน เพราะฉะนั้นวันนี้ที่นำสื่อมวลชนมาก็เพื่อประการนี้ “เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้กล่าวในตอนท้าย ทั้งนี้ กิจกรรมการอภิปรายและตอบข้อซักถามกับสื่อมวลชน จะดำเนินการต่ออีก 1 วัน ในวันที่ 26 เม.ย.66

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!