ราชบุรี-ผู้การเมืองโอ่ง แถลงข่าวจับผู้ต้องหางัดตู้บริจาควัด
ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)
บก.ภ.จว.ราชบุรี แถลงข่าวผลการจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุงัดตู้บริจาคของวัดพระศรีอารย์ ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม ได้เงินสดไป 1.2 แสนบาท
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ม.ค.65 ที่วัดพระศรีอารย์ ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พร้อม พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.โพธาราม, พ.ต.ท.ธัชพล ว่องพานิช รอง ผกก.ป.สภ.โพธาราม และจนท.ชุดสืบสวน สภ.โพธาราม ได้ร่วมนำตัวคนร้ายทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมแถลงข่าวผลการจับกุมตัวคนร้าย ที่ก่อเหตุงัดตู้บริจาครับเงินของวัดพระศรีอารย์ โดยคนร้ายได้ก่อเหตุลักทรัพย์ภายในวัด เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้คีมตัดเหล็กเข้ามาตัดกุญแจตู้บริจาคจำนวน 2 ใบ ได้เงินไปประมาณ 1 แสนบาท และหลบหนีไปไม่ทราบทิศทางที่หลบหนี และยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ
จนต่อมาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.65 ร.ต.ท.สุนันท์ เรืองเที่ยง รองสวป.สภ.โคกขาม ได้รับแจ้งข้อมูลจากสายลับว่า คนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์เงินตู้บริจาควัดในพื้นที่สภ.โพธาราม คือ นายวิศิษฐ์ หรือ ไปร์ ยิ้มละมัย อายุ 22 ปี ชาว ต.ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร และ น.ส.สุพรรษา หรือ ตะวัน โพธิ์ศรี อายุ 21 ปี ชาว ต.โกรกกราก จ.สมุทรสาคร ซึ่งทั้งคู่เป็นแฟนกัน จึงนำกำลังจนท.ตำรวจ ไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในย่าม จ.สมุทรสาคร โดยทั้งคู่ให้การยอมรับว่า ได้ก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์เงินตู้บริจาคภายในวัดจริง โดยร่วมกับคนร้ายอีก 2 คน ซึ่งเป็นเยาวชน และได้แยกย้ายกันหลบหนีหลังแบ่งเงินที่ลักทรัพย์มาได้ โดยไม่รู้ว่าหลบหนีไปที่ไหน จนท.ตำรวจจึงควบคุมตัวนายไปร์ และ น.ส.ตะวัน มาสอบสวนต่อที่ สภ.โพธาราม
จากการสอบสวนทั้งคู่ให้การว่า ได้ร่วมกับ นายป๋อง (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ชาว ต.จอมปลวก จ.สมุทรสงคราม และน.ส.จอย (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชาว ต.นาดี จ.สมุทรสาคร โดยบุคคลทั้ง 4 คน ได้ขับขี่รถจยย.มาจาก จ.สมุทรสาคร มาก่อเหตุลักทรัพย์เงินตู้บริจาคที่วัดดังกล่าวจริง โดยนายไปร์ ได้ขับขี่รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มี น.ส.ตะวัน นั่งซ้อนท้าย และนายป๋อง ได้ขับขี่รถจยย.ไม่ทราบยี่ห้อ หมายเลขทะเบียน น.ส.จอย นั่งซ้อนท้าย เมื่อถึงปากทางเข้าวัด นายไปร์ และนายป๋อง ได้ให้ น.ส.ตะวัน และน.ส.จอย รออยู่ที่ศาลาพักผู้โดยสารบริเวณถนนหน้าวัด และนำรถจยย.มาจอดที่บริเวณด้านหลังกำแพงของวัด แล้วเดินเข้าไปที่อาคารเก็บตู้รับเงินบริจาค จากนั้นใช้คีมตัดกุญแจแล้วนำเอาเงินบริจาคในตู้ไปโดยใส่ถุงปุ๋ย แล้วขับขี่รถจยย.ออกจากวัด เพื่อไปหาแฟนที่รออยู่ที่ศาลาพักผู้โดยสาร จากนั้นได้พากันขับขี่รถจยย.หลบหนีไป โดยไปเปิดโรงแรมในพื้นที่สภ.ดำเนินสะดวก หมู่ 7 ต.แพงพวย เพื่อนับเงินที่ได้จากการลักทรัพย์ โดยได้เงินประมาณ 120,000 บาท นายไปร์ จึงนำเงินดังกล่าวแบ่งให้ นายป๋อง 2 หมื่นบาท ส่วนตนเองเอาเงินไป 1 แสนบาท และแยกย้ายกันหลบหนี หลังได้เงินไป นายไปร์ ได้นำเงินไปให้แม่ 3 หมื่นบาท ตรวจยึดคือมาได้ 6,346 บาท และนำเงินไปทำทองเพิ่มให้ น.ส.ตะวัน 4,000 บาท ตรวจยึดแหวนจำนวน 1 วงน้ำหนักประมาณครึ่งสลึง นำเงินไปซื้อปืน 3 หมื่นบาท และนำเงินไปถ่ายโทรศัพท์ที่จำนำไว้จำนวน 1 หมื่นบาท โดยจนท.ตำรวจยังตรวจยึดเสื้อและกางเกง ที่นายไปร์สวมใส่ในวันก่อเหตุได้อีกด้วย จึงนำตัวนายไปร์ พร้อม น.ส.ตะวัน แฟนสาว ส่งพนักงานสอบสวนสภ.โพธาราม เพื่อดำเนินคดี ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับครอบครอง หรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปทำด้วยประการใดๆ โดยปลอมแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นบุคคลอื่น มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมพร้อมของกลาง ส่วนคนร้ายอีก 2 คน ที่กำลังหลบหนี คือนายป๋อง และ น.ส.จอย ซึ่งเป็นเยาวชน จะได้ดำเนินการสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป