นครสวรรค์-สภา อบจ. ประชุมสมัยวิสามัญ สมัยที่ 2 โหวตเต็มร้อย ลุยรับคนกลับบ้าน
ภาพ/ข่าว:ชาติชาย เกียรติพิริยะ
สภา อบจ.นครสวรรค์ ประชุมสมัยวิสามัญ สมัยที่ 2 ประจำปี 2564 โหวตเต็มร้อย ลุยรับคนกลับบ้าน ทำศูนย์พักคอย คัดเลือกสมาชิกสภาฯ แต่งตั้งเป็นคณะกรรมการประเมินผลการปฏิบัติราชการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ และสรรหาคณะกรรมการสถานศึกษาชั้นพื้นฐานโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (จิรประวัติ )นครสวรรค์
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ที่หอประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ นายณรงค์ พนมวัน ประธานสภาอบจ.นครสวรรค์ เรียกประชุมสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์สมัยวิสามัญ สมัยที่ 2 ประจำปี 2564 โดยมีพลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายกอบจ.นครสวรรค์ พร้อมคณะรองนายกอบจ.นครสวรรค์ เลขานายกอบจ.นครสวรรค์และสมาชิกสภาอบจ.นครสวรรค์เข้าร่วมประชุม จำนวน 32 คน
ในการประชุมมีระเบียบวาระที่สำคัญดังนี้คือ
ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม
ระเบียบวาระที่ 2 เรื่อง รับรองรายงานการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564
ระเบียบวาระที่ 3 เรื่อง การคัดเลือกสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อแห่งตั้งเป็นคณะกรรมการประเมินผลการปฏิบัติราชการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ แทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 2 คน
ระเบียบวาระที่ 4 ญัตติ การสรรหาผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (จิรประวัติ) นครสวรรค์ จำนวน 1 คน
ระเบียบวาระที่ 5 ญัตติ รับโอนครุภัณฑ์จากหน่วยงานภายนอก เพื่อใช้ประโยชน์ภายในโครงการพัฒน บึงบอระเพ็ด ด้านการท่องเที่ยว
ระเบียบวาระที่ 6 ญัตติ การจัดทำหลักสูตรพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (จิรประวัติ นครสวรรค์ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์
ระเบียบวาระที่ 7 ญัตติ การโอนงบประมานรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของสำนักงานเลขานุการองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 9,600 บาท
ระเบียบวาระที่ 8 ญัตติ การโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เงินเหลือจ่ายของกองการเจ้าหน้าที่ ไปตั้งจ่ายเป็นรายการใหม่ ที่กองยุทธศาสตร์และงบประมาณค่าครุภัณฑ์ จำนวน 324,960 บาท
ระเบียบวาระที่ 9 ญัตติ การโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ของกองคลังไปตั้งจ่ายเป็นรายการใหม่ ที่กองสาธารณสุข ค่าครุภัณฑ์ จำนวน 5 รายการ รวมเป็นเงิน 74,000 บาท
พร้อมกันนี้ พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายกอบจ.นครสวรรค์ ได้กล่าวกับสมาชิกสภาฯว่า “ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดในวงกว้าง เพราะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก หลังจากที่มีคำสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง บางส่วนสามารถเดินทางกลับบ้านได้ บางส่วนไม่มีศักยภาพพอที่จะเดินทางกลับมาได้ และผู้ที่กลับมาแล้วไม่ได้มีการตรวจสอบคัดกรองแยกประเภทว่าติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อ หรือไม่ได้มีการกักตัวแยกจากครอบครัว เมื่อมีผู้ติดเชื้อแต่ยังไม่แสดงอาการไปอยู่ร่วมกับผู้อื่น ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรวดเร็ว จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นมาก เตียงที่โรงพยาบาลสนามจึงเริ่มไม่พอ ต้องเตรียมเปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้นอีก และคงจะไม่เพียงพอไปเรื่อยๆ ถ้ายังไม่มีระบบคัดกรองคนเดินทางกลับบ้าน และศูนย์พักคอย” นายก อบจ.กล่าวต่อว่า “ในเบื้องต้น อบจ.นครสวรรค์ ร่วมกับภาคประชาชนและส่วนราชการอื่น ที่เห็นด้วยเช่น ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 6 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรค์ สภ.เมืองนครสวรรค์ สาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ สปสช.นครสวรรค์ และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ จะให้ความร่วมมือในเรื่องของการประสานงานคัดกรองคน รับเรื่องร้องทุกข์โรคโควิด-19 รวมถึงสถานที่พักคอย หากมีคนกลับบ้านจำนวนมาก และที่พักไม่เพียงพอ” นอกจากนี้ทางกลุ่มสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ แจ้งในที่ประชุมว่า สมาชิกสภ อบจ.ทุกเขต จะดำเนินการจัดตั้งศูนย์เพื่อแก้ไขปัญหาภาคประชาชนทั้ง 36 เขต โดย สจ.จะเป็นหัวหน้าศูนย์เพื่อรับเรื่อง ร่วมกับ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อสม.
ในที่ประชุมยังมีการตกลงร่วมกันอีกว่า ในปีงบประมาณ 2565 อบจ.นครสวรรค์จะหยุดการพัฒนา 1 ปี เพื่อเอางบประมาณที่จะใช้พัฒนามาทุ่มช่วยแก้ปัญหาสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยต้องคำนึงถึงทรัพยากรมนุษย์ก่อน ต่อให้ถนนสวยประชาชนยังป่วยอยู่ก็ไม่ประโยชน์ เพราะ 1 ชีวิตมีความหมาย ทาง อบจ.ทนรอไม่ได้ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ประชาชนที่กำลังอดอยาก มีความทุกข์ เดือดร้อนจากโรคภัย ได้มีสุขภาพแข็งแรง มีกิน มีใช้ และดำรงชีวิตอยู่ได้ในสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียด หลังจากนั้นนายก อบจ.จึงได้ถามความเห็นชอบจากสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อโหวตกับแนวทางรับคนกลับบ้านและการจัดศูนย์พักคอย ซึ่งผลโหวตออกมา 100 % สจ.ทุกคนเห็นด้วย พร้อมร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยจะจัดตั้งศูนย์ฯในเขตพื้นที่ของตนเอง แล้วประสานงานกับ อบจ. ส่งต่อข้อมูล ผู้ป่วย ผู้เดือดร้อน จะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างทั่วถึง