นครสวรรค์-นายก อบจ.ประกาศเดินหน้าลุยรับคนกลับบ้าน ทำศูนย์พักคอย
ภาพ/ข่าว:ชาติชาย เกียรติพิริยะ
นายก อบจ.ประกาศเดินหน้าลุยรับคนกลับบ้าน ทำศูนย์พักคอย ป่วย/ไม่ป่วย รับกลับหมด “คนนครสวรรค์ต้องไม่ฆ่าตัวตาย ต้องได้กลับนครสวรรค์” มีภาคีร่วม
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ที่อาคารอเนกประสงค์ สัมมนาและจัดนิทรรศการ บึงบอระเพ็ด อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วย นางสุดฤทัย เศรษฐนันท์ รองนายกอบจ.นครสวรรค์ ร้อยตำรวจโทพิทักษ์ พันธ์งิ้ว เลขานุการนายกอบจ. นายณรงค์ พนมวัน ประธานสภา อบจ.นายไกรสิน ศิลปาจารย์ ปลัด อบจ. และคณะ เดินทางเข้าไปดูการจัดเตรียมสถานที่เพื่อใช้เป็นศูนย์พักคอยรับคนนครสวรรค์กลับบ้านจากทั่วประเทศ โดยมีนายแพทย์พิสุทธิ์ ชื่นจงกลกุล สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 นครสวรรค์ นายแพทย์อำนาจ น้อยขำ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ นายวงษ์สวัสดิ์ ตันวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจังหวัดนครสวรรค์ (สปสช.) นางสาวบุษกร สุรรังสรรค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจังหวัดนครสวรรค์ (สปสช.) และคณะสาธารณสุข ร่วมเดินทางไปดูสถานที่ที่จะใช้เป็นที่พักสำหรับรับคนนครสวรรค์กลับบ้าน หลังจากนั้นได้มีการร่วมประชุมปรึกษาหารือ หาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนชาวนครสวรรค์ที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับบ้าน ที่มีระบบดูแลช่วยเหลือคัดกรองอย่างปลอดภัย โดยทางอบจ.ได้ผ่านการเห็นชอบทางสมาชิกสภาอบจ.นครสวรรค์ ซึ่งมีโหวตเห็นชอบด้วย 100 % และขณะนี้มีภาคราชการที่เสนอเข้ามาร่วมดำเนินการด้วยคือ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 6 นครสวรรค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ สภ.เมืองนครสวรรค์ สาธารณะสุขจังหวัดนครสวรรค์ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินครสวรรค์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 นครสวรรค์
ทั้งนี้ พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า “การแก้ปัญหาต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เนื่องจากที่ผ่านมาสถานการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาดในวงกว้าง เพราะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก หลังจากที่มีคำสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง บางส่วนสามารถเดินทางกลับบ้านได้ บางส่วนไม่มีศักยภาพพอที่จะเดินทางกลับมาได้ และผู้ที่กลับมาแล้วไม่ได้มีการตรวจสอบคัดกรองแยกประเภท ว่าติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อ หรือไม่ได้มีการกักตัวแยกจากครอบครัว เมื่อมีผู้ติดเชื้อแต่ยังไม่แสดงอาการไปอยู่ร่วมกับผู้อื่น ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรวดเร็ว จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นมาก เตียงที่โรงพยาบาลสนามจึงเริ่มไม่พอ ต้องเตรียมเปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้นอีก และคงจะไม่เพียงพอไปเรื่อยๆถ้ายังไม่มีระบบคัดกรองคนเดินทางกลับบ้านและศูนย์พักคอย” นายก อบจ.กล่าวต่อว่า สำหรับในปีงบประมาณ 2565 อบจ.นครสวรรค์จะหยุดการพัฒนา 1 ปี เพื่อเอางบประมาณที่จะใช้พัฒนามาทุ่มช่วยแก้ปัญหาสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยต้องคำนึงถึงทรัพยากรมนุษย์ก่อน ต่อให้ถนนสวยแค่ไหนก็ตาม ถ้าประชาชนยังป่วยอยู่ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะ 1 ชีวิตมีความหมาย ทาง อบจ.ทนรอไม่ได้ ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ประชาชนที่กำลังอดอยาก มีความทุกข์ เดือดร้อนจากโรคภัย ได้มีสุขภาพแข็งแรง มีกิน มีใช้ และดำรงชีวิตอยู่ได้ในสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียด” นายกเพิ่มเติมว่า “วันนี้ทางอบจ.ได้ดำเนินการรับผู้ป่วยทั้งหมด 3 เคส ซึ่งเคสที่ได้พูดคุยด้วย ได้ทราบถึงปัญหาว่าไม่มีโรงพยาบาล ไม่มีเตียงรับเข้ารักษา และรักษาตัวเองอยู่ โดยผู้ป่วยอาศัยอยู่เพียงคนเดียว จึงเห็นว่าหากเราไม่รีบดำเนินการ คนป่วยจะไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อีกทั้งหากไม่ปิดหน้าต่าง ประตูหลังบ้าน ให้ประชาชนเข้าประตูทางเดียว โดยการเข้าระบบคัดกรองคนเดินทางกลับบ้าน และศูนย์พักคอย ก็จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์จะรับภาระไม่ไหว และโรงพยาบาลสนามจะมีไม่เพียงพอ จะต้องเปิดอีกกี่แห่ง ถ้าเรายังไม่ทำการสกัดกั้น เรารอไม่ได้ ตอนนี้เราจะดำเนินการในภาคประชาชน อบจ.หยุดไม่ได้ ”
นายแพทย์อำนาจ น้อยขำ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า “เราได้เริ่มตั้ง Community Isolation หรือ CI ตามอำเภอต่างๆแล้ว คนไข้ที่รักษาในโรงพยาบาลจะเป็นคนไข้กลุ่มสีเหลือง โดยจะมีแพทย์การประเมินอาการด้วยระบบคอนเฟอร์เรนซ์ ทุกคนที่เข้าไปรักษาจะเป็นผู้ป่วยในภูมิลำเนา ซึ่งปัญหาหลักคือ คนต่างพื้นที่กลับมา จึงจำเป็นต้องหาคนป่วยให้เร็วก่อนแพร่เชื้อกระจายต่อไป”
ด้านนายแพทย์พิสุทธิ์ ชื่นจงกลกุล ได้กล่าวถึงการหาบุคลากรทางการแพทย์ว่า “ตอนนี้บุคลากรทางการแพทย์ในระบบมีงานมากจนทำไม่ทัน แนวการแก้ปัญหาคือจะเชิญแพทย์และพยาบาลที่เกษียณมาช่วยดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว หรือแพทย์จากภาคเอกชนเข้ามาเสริม ซึ่งหากคนไข้อาการไม่ดีขึ้นหรือกลุ่มสีเหลืองจะส่งต่อเข้าโรงพยาบาล”
นายวงษ์สวัสดิ์ ตันวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจังหวัดนครสวรรค์ (สปสช.)กล่าวว่า “ทางสปสช.พร้อมให้การสนับสนุน ค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์ รวมไปถึงเงินเดือนของบุคลากรทางการแพทย์ หากได้รับการอนุมัติเห็นชอบจาก ศบค.จังหวัด ทั้งนี้เพื่อจะได้ให้การดำเนินการเป็นไปในระบบเดียวกัน สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกันได้ โดยจะมีการสนับสนุนอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการดูแลประชาชนเข้ามาเสริมให้ อันจะเป็นการเพิ่มศักยภาพ มาตรฐานในการดูแลประชาชนอีกทางหนึ่ง” ซึ่งบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี มีการเสนอแนะแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง มีการซักถามปัญหา รวมไปถึงรายละเอียดการคัดกรอง การตรวจด้วย Rapid Test Kit ที่ใช้เวลาไม่นานจะทราบผล รวมทั้งคณะนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจะนำรายละเอียด วิธีการ ขั้นตอน ไปเสนอในที่ประชุม ศบค.จังหวัดเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป ทั้งนี้นายก อบจ.นครสวรรค์ กล่าวในตอนท้ายว่า ” อบจ.ขอขอบคุณทุกท่านที่มาให้คำแนะนำ และร่วมดำเนินการ โดยทาง อบจ.จะปฏิบัติตามระเบียบของทางสาธารณสุขทุกอย่าง เพื่อความปลอดภัย และการมีสุขภาพดีของประชาชนชาวนครสวรรค์ สิ่งที่ต้องการมากที่สุดขณะนี้คือ บุคลากรทางการแพทย์ แต่งานของบุคลากรทางการแพทย์ก็มีมากอยู่แล้ว ถ้าจำเป็นต้องจ้างแพทย์เกษียณ แพทย์เอกชน อบจ.ยินดีออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง”