สุพรรณบุรี-วอนช่วยเหลือแม่ดูแลลูกป่วยตัดขาซ้ำร้ายบ้านทรุดโทรมหนักใช้ชีวิตแสนอนาถ

สุพรรณบุรี-วอนช่วยเหลือแม่ดูแลลูกป่วยตัดขาซ้ำร้ายบ้านทรุดโทรมหนักใช้ชีวิตแสนอนาถ

ภาพ/ข่าว:มงคล สว่างศรี สุพรรณบุรี

                   วอนช่วยเหลือแม่ดูแลลูกป่วยเบาหวานต้องตัดขาซ้ำร้ายบันไดบ้านทรุดโทรมหนักใช้ชีวิตแสนอนาถ

             แม่วัย 87 ปี ชาว ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง วอนผู้ใจบุญช่วยลูกสาววัย 58 ปี ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานต้องตัดข้อเท้าทิ้ง เส้นเลือดหัวใจตีบ และมะเร็งเต้านมซ้ำร้ายบ้านพักที่อยู่อาศัยยังรั่วหนัก บันไดทางขึ้นบ้านและสะพานทรุดโทรมอยากได้บันไดและสะพานเข้าบ้านใหม่เวลาพาลูกสาวไปหาหมอแสนลำบาก
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อจ่าเนม กู้ภัยลั่นล้า ซึ่งเป็น จนท.มูลนิธิเสมอกันสุพรรณบุรี โพสต์คลิปขณะนำผู้ป่วยหญิง 1 ราย จากโรงพยาบาลมาส่งที่บ้านตอนเห็นภาพขณะเข้าบ้านผู้ป่วยต้องนั่งและใช้วิธีถัดไปบนสะพานไม้เก่าๆเพื่อเข้าบ้านเกรงว่าจะพลาดตกน้ำ ทำให้คลิปถูกแชร์เป็นจำนวนมาก ล่าสุดผู้สื่อข่าวจึงไปตรวจสอบ พบนางทิ้ง เต็กเกล็ด อายุ 87 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170 หมู่ 5 ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี และนางสุรินทร์ เพื่องนคร อายุ 58 ปี ลูกสาวที่ป่วยหลายโรคต้องนั่งอยู่บนรถเข็นวีลแชร์มานานหลายปีแล้ว หลังจากเป็นโรคเบาหวานเป็นแผลที่เท้าจนต้องตัดเท้าทิ้งแถมเป็นมะเร็งเต้านมต้องตัดเต้านมออก1ข้างและภาวะเส้นเลือดตีบตัน กลายเป็นผู้ป่วยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

             ทำให้ นางทิ้ง ผู้เป็นแม่ ต้องคอยอยู่ดูแลลูกสาวตลอด ตัวเองก็อายุมากสายตาก็ฝ้าฟาง สภาพบ้านเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงอยู่กันตามลำพังเพียง 2 คนแม่ลูก มีรายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยคนพิการคนละ 800 บาท มาใช้จ่าย ซ้ำร้ายคือ ชานหน้าบ้านและบันไดหน้าบ้านได้ทรุดโทรมกรสังกระสีพุและมีรูรั่วหลายจุด จนยิ่งซ้ำเติมปัญหาของสองแม่ลูกคู่นี้ให้ย่ำแย่ไปกว่าเดิม โดยเฉพาะเวลาที่นางสุรินทร์ ลูกสาวต้องไปหาหมอต้องใช้วิธีนั่งถัดไปลงบันได้ที่มีสภาพเก่าและข้ามสะพานไม่เก่าเป็นคูน้ำกว่างประมาณ 3 เมตร โดยมีลูกสาวของนางสุรินทร์ ที่ทำงานอยู่กรุงเทพมารับไปหาหมอ มีเพียงลูกสาวนางสุรินทร์ที่ช่วยแบ่งเบาภาระได้บ้าง แต่ก็ไม่มากนัก โดยสิ่งที่นางทิ้งต้องการก็คือ บันไดขึ้นบ้านและสะพานใหม่พอให้รถเข็นวีลแชร์เข็นได้เวลาพาลูกสาวไปหาหมอ ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ของ อบต.บางตาเถร เข้ามาสำรวจแล้วว่าจะมาทำให้นี้ก็ผ่านมาปีกว่าแล้วยังเงียบหาไปยังไม่รู้ว่าบันไดบ้านหรือสะพานจะหักก่อนเพราะที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ สอบถามนายสิทธิ เต็กเกล็ด อายุ 58 ปี หลานยายทิ้งเล่าว่าทางเข้าบ้านยายทื้งและคูน้ำเป็นที่ส่วนบุคคลต้องขออนุญาตเจ้าของที่เขาก่อนท้าจะทำสะพานใหม่หรือต้องทำทางเข้าด้านหลัง ปัจจุบันก็อยู่กันตามสภาพตามมีตามเกิด ถ้ามีหน่วยงานใหนหรือผู้ใจบุญเข้ามาช่วยเหลือได้ก็ยินดี

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!