เพชรบุรี-ชี้”การสร้างทางต่างระดับ ข้ามทางหลวง ถนนเพชรเกษม ไม่เพีย

ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร 

ผู้ว่าฯ เพชรบุรี ชี้”การสร้างทางต่างระดับ ข้ามทางหลวง ถนนเพชรเกษม ไม่เพียงสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน แต่ยังอำนวยความสะดวก ให้รถที่จะขับข้ามเปลี่ยนฝั่ง ไม่ต้องยูเทิร์นบนถนนหรือมุดใต้ถนน”พร้อมติดตามความคืบหน้า หลังดำเนินการสำรวจ ออกแบบการสร้าง ฯ ต้องไม่ส่งผลกระทบสิ่งแวดลัอมทุกด้าน

          เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (17 สิงหาคม 2565) นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายโอฬาร เวียงวีระ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวงชนบท หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ร่วมติดตามการดำเนินโครงการทางต่างระดับข้ามทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) อำเภอบ้านลาด ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดเพชรบุรีเป็นประตูสู่ภาคใต้ทางหลวงหมายเลข 4 มักมีการจราจรที่คับคั่ง ส่งผลถึงความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ต้องการให้มีทางที่สามารถที่จะข้ามฝั่งถนนตรงข้ามได้ โดยที่ไม่ต้องยูเทิร์นบนถนนหรือมุดลงใต้ถนน บริเวณจุดหน้าโรงเรียน ,หน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสันฯ ให้มีความปลอดภัยขึ้น สะดวกขึ้น และยังไม่กระทบกับการเดินทางลงใต้ หรือขึ้นกรุงเทพฯ กรมทางหลวงชนบทจึงได้มอบหมายให้ทางบริษัทฯ ศึกษาความเป็นไปได้และประเมินผลว่ากระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่อย่างไร

           ทางด้าน นายโอฬาร เวียงวีระ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า กรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการสำรวจออกแบบ ทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลการการศึกษาเบื้องต้น พบว่าที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้โบราณสถาน วัดธาตุชัยศิริ ซึ่งเข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ซึ่งหากคณะกรรมการพิจารณาเห็นชอบโครงการแล้วจะได้ดำเนินก่อสร้าง โดยการของบประมาณ ในปี 2567 และคาดว่าจะได้เริ่มก่อสร้างประมาณ ปี 2569 นอกจากนั้น นายโอฬาร เวียงวีระ กล่าวเพิ่มเติมถึงการทำ EIA ว่า เป็นการศึกษาผลกระทบเกี่ยวกับ เรื่องเสียง แรงสั่นสะเทือน เรื่องน้ำ และโบราณสถาน ทั้งหมดต้องผ่าน ตามมาตรฐาน ซึ่งขณะนี้ทางกรมทางหลวงได้แบบก่อสร้างแล้ว และเข้าพบหน่วยงานราชการในพื้นที่ รวมทั้งดำเนินการจ้างที่ปรึกษา เพื่อดำเนินงานจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของทางต่างระดับข้ามทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) อำเภอบ้านลาด และสร้างการรับรู้ให้ประชาชนต่อไป