สุพรรณบุรี-โจรแสบย่องกวาดคอมพิวเตอร์บริษัทก่อสร้าง

ภาพ/ข่าว:มงคล สว่างศรี 

สุพรรณบุรีโจรแสบย่องกวาดคอมพิวเตอร์บริษัทก่อสร้าง

             ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ร.ต.อ.สายฝน หลักเพชร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายตรวจอู่ยา ว่ามีเหตุลักทรัพย์ของสำนักงานสนามบริษัทก่อสร้าง ภายในหมู่บ้านการเคหะแห่งชาติอู่ยา หมู่ 1 ตำบลดอนกำยาน จึงประสานฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นสำนักงานสนามของบริษัท จินนาภา จำกัด พบนายเฉลิมพล จันทร์ศรี อายุ 31 ปีผู้จัดการคุมไซต์งาน ของบริษัทดังกล่าวรอให้การกับเจ้าหน้าที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงนายเฉลิมพล ได้พาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินซึ่งอยู่ภายในสำนักงานที่หายไปประกอบด้วยคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 3 เครื่อง คอมพิมเตอร์ ตั้งโต๊ะ แบบออล์อินวัน อีก 2 เครื่อง ส่วนทรัพย์สินอื่นคนร้ายไม่ได้เอาไป และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการรื้อค้น และประตูห้องไม่มีรอยงัดแต่อย่างใด
จากการสอบถามนายเฉลิมพล ผู้จัดการคุมไซต์งานบริษัทก่อสร้างดังกล่าวเล่าว่าบริษัทได้รับเหมาก่อสร้างหมู่บ้านการเคหะแห่งชาติ ที่บ้านอู่ยา โดยลงมือทำงานมาได้ประมาณ 1 เดือนเศษ หลังจากที่ได้ทำงานมาได้ระยะหนึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรกระทั่งเช้าของวันนี้ ตนได้มาเปิดประตูสำนักงาน ก็สังเกตเห็นว่ากุญแจที่ล็อกประตูไว้หายไปจึงรีบเปิดประตูเข้าไปตรวจสอบภายในห้องสำนักงานก็พบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 2 เครื่องและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 3 เครื่องหายไปจึงรีบโทรแจ้งตำรวจ มาตรวจสอบ ซึ่งข้อมูลในคอมพิวเตอร์มีข้อมูลสำคัญหลายอย่าง ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุตนไม่ทราบว่าเป็นใคร คาดว่าเข้ามาก่อเหตุช่วงกลางดึก เนื่องจากเมื่อวานหลังเลิกงาน 17.00 น.กว่าตนจะกลับบ้านพักก็สามทุ่มกว่าแล้ว ส่วนพื้นที่ก่อสร้างมีเพียงคนงานที่พักอยู่ และอยู่ห่างจากสำนักงานประมาณ 100 เมตร คนร้ายน่าจะใช้เครื่องมือตัดกุญแจที่ล็อกไว้หลังก่อเหตุคนร้ายได้เอากุญแจที่ล็อกไปด้วยขอฝากเจ้าหน้าที่ช่วยเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วด้วย

            ทางด้าน ร.ต.อ.สายฝน หลักเพชร พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี กล่าวว่าจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นที่น่าสงสัยว่าทำไมคนร้ายไม่เอาทรัพย์สินอื่น นอกจากคอมพิวเตอร์ซึ่งเก็บข้อมูลหลายอย่างเอาไว้ ซึ่งสำนักงานของบริษัทก่อสร้างแห่งนี้ไม่มีทั้ง รปภ.และไม่ได้ติดกล้องวงจรปิดป้องกันเอาไว้แต่อย่างใด คนร้ายที่ก่อเหตุคาดว่ามีไม่น้อยกว่า 2 คนน่าจะใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการก่อเหตุเนื่องจากได้ทรัพย์ไปหลายรายการ อย่างไรก็ตามตนได้ประสานกับฝ่ายสืบสวนให้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงและสืบหาเบาะแสของคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป ทางด้านพ่อค้าเจ้าของแผงขายพระเครื่องหน้าทางเข้าการเคหะอู่ยา เล่าว่าที่เคหะ ไม่มี รปภ.มานานหลายปีแต่ก็ไม่เคยมีเหตุลักทรัพย์ กระทั่งมรบริษัทก่อสร้างมาก่อสร้างหมู่บ้านมีคนเข้าออกบ่อยและมากขึ้นแล้วก็มาเกิดเหตุขึ้น