เชียงใหม่-กงสุลใหญ่ญี่ปุ่นเข้าพบผู้ว่าฯหารือโควิดและฝุ่นควัน

ภาพ/ข่าว:นันธิกา กิจปาโล
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

    กงสุลญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ เข้าพบผู้ว่าราชการจัดเชียงใหม่ หารือมาตรการรับมือเชื้อไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์ฝุ่นควัน PM2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่
      นายฮิโรชิ มัทสีโมะโตะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ พร้อมคณะ เข้าพบ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ณ ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการการรับมือเชื้อไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์ฝุ่นควัน PM2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ โดย นายฮิโรชิ มัทสีโมะโตะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกนโยบายรับมือเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ดีที่สุด หากพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่ใด จะประกาศแจ้งให้ประชาชนทราบโดยทันที และจะให้โรงพยาบาลเข้าไปรับตัวผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็วที่สุด พร้อมจัดตั้งทีมเฉพาะกิจในแต่ละจังหวัด เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างทั่วถึง
      ขณะที่มาตรการของกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในภาคเหนือ ติดตามข่าวสารจากสำนักงานสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง และไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก ซึ่งหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามโดยตรงได้ที่กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ พร้อมขอความร่วมมือให้ทางสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งข้อมูลผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อที่เป็นชาวญี่ปุ่น ไปยังกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ เพื่อจะได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการประสานงานและดูแลต่อไป
       ด้าน นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการวางมาตรการรับมือเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรัดกุม และมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาสถานะของจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ให้เป็นจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดได้ อย่างไรก็ตามหากพบผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อที่เป็นชาวญี่ปุ่น จะมีการแจ้งข้อมูลไปยังกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ทันที ในส่วนของสถานการณ์ฝุ่นควัน PM2.5 ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ (ส่วนหน้า) ในค่ายพิชิตปรีชากร กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 7 ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว เพื่อเตรียมปฏิบัติการ “Set Zero” ครอบคลุม 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงดาว แม่แตง พร้าว และอำเภอไชยปราการ พร้อมดำเนินการจัดซื้อเครื่องกำจัดใบไม้ให้แก่ชุมชน เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงอย่างยั่งยืน