ศรีสะเกษ-2 ชุมชนเทศบาลน้ำท่วมตัดขาดโลกภายนอกรองผู้ว่าหอบถุงยังชีพฝ่าสายฝนตกหนักไปช่วยเหลือ
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ
2 ชุมชนเทศบาลน้ำท่วมตัดขาดโลกภายนอกรองผู้ว่าหอบถุงยังชีพฝ่าสายฝนตกหนักไปช่วยเหลือ เผยอ่างเก็บน้ำทั้ง 16 แห่งน้ำล้นทะลักแล้ว เตือนประชาชนขอให้จัดเตรียมข้าวของมีค่าให้เตรียมการอพยพด่วนหากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
เมื่อวันที่ 26 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้มีฝนตกหนักต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน ส่งผลให้น้ำในลำห้วยสำราญที่มีต้นน้ำจากเทือกเขาพนมดงรักซึ่งไหลมาตามลำห้วยสำราญผ่านกลางเมืองได้เอ่อล้นเข้าไปท่วมไร่นาพืชผลทางการเกษตรและบ้านเรือนของชาวบ้านเป็นบริเวณกว้าง โดยที่บริเวณปากทางเข้าชุมชนโนนสวรรค์และชุมชนโนนขะยอม เขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ นายคมป์ สังข์วงษ์ นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ น.ส.ทิพวรรณ ปัญญาคม หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ สำนักงาน ปภ.จ.ศรีสะเกษ ได้ฝ่าสายฝนเข้าไปทำการตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจากว่า มี 2 ชุมชนคือ ชุมชนโนนสวรรค์และชุมชน โนนขะยอม อยู่ติดลำห้วยสำราญและมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกน้ำท่วม ซึ่งพบว่า บริเวณปากทางเข้าชุมชนถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง และรอบบริเวณชุมชนถูกน้ำที่เอ่อล้นทะลักจากลำห้วยสำราญเข้าไปท่วมรอบชุมชนหมดแล้ว ทำให้ทั้ง 2 ชุมชนกลายเป็นเกาะกลางน้ำ ชาวบ้านต้องใช้เรือในการเข้า – ออกชุมชน ซึ่ง รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้นำเอาถุงยังชีพซึ่ง อบต.หญ้าปล้อง ได้จัดทำขึ้นมาเบื้องต้น จำนวน 20 ชุด นำเอามามอบให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยมี นางบุญจิรา พิทักษา ผญบ. หมู่ 8 บ้านโนนสำนัก ต.หญ้าปล้อง พร้อมด้วย นางสาคร คำมานพ ผช.ผญบ.หมู่ 8 นำชาวบ้านที่ประสบภัยมารับมอบถุงยังชีพ นางสาคร คำมานพ ผช.ผญบ.หมู่ 8 บ้านโนนสำนัก กล่าวว่า 2 ชุมชนอยู่ติดลำห้วยสำราญ ซึ่งปรากฏว่า ระดับน้ำได้ขึ้นเร็วมาก ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านถูกน้ำท่วมไปแล้วหลายหลัง ต้องพากันขนข้าวของหนีน้ำท่วมกันอย่างโกลาหล โดยน้ำจะท่วมรอบ ๆ ชุมชน ทำให้ 2 ชุมชนมีสภาพคล้ายกับเป็นเกาะกลางน้ำถูกตัดขาดจากโลกภายนอก จะต้องใช้เรือในการเข้าไปที่บ้านเรือนของตนเองทางด้านนี้เพียงด้านเดียวเท่านั้น โดยชุมชนโนนขะยอม มีบ้านเรือน จำนวน 17 ครอบครัว ชุมชนโนนสวรรค์ มีจำนวน 37 ครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้
นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เขตนี้เป็นเขตเชื่อมต่อระหว่างเทศบาลเมืองศรีสะเกษ กับ อบต.หญ้าปล้อง มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ด้านใน เบื้องต้นเราได้มีการแจ้งเตือนก่อนแล้วว่าจะมีน้ำเข้ามาท่วม แต่ว่าชาวบ้านคิดว่ากว่าน้ำจะท่วมคงจะต้องใช้เวลาหลายวัน แต่ว่าเมื่อสักครู่ตนก็ได้นำเรียนผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 แล้วว่า ตอนนี้มีการแจ้งเตือนแล้วและได้มีการอพยพโยกย้ายออกมา ซึ่งได้มีการเตรียมเรือเอาไว้เพื่อใช้ในการอพยพพี่น้องประชาชนออกมาแล้ว รวมทั้งเทศบาลเมืองศรีสะเกษได้จัดตั้งเต็นท์ในที่สูงเพื่อรองรับพี่น้องประชาชนที่จะอพยพขึ้นมาไว้แล้ว เหลือแต่การขนย้ายพี่น้องประชาชนเท่านั้น แต่ว่าชุมชนนี้มันจะมีพื้นที่ในส่วนทั้งที่เป็นที่เนิน โดยบางส่วนยังพักอาศัยได้ แต่ว่าเราก็ต้องขนย้ายพี่น้องประชาชนออกมาเพราะว่ามวลน้ำที่มีเข้ามาในขณะนี้มีจำนวนมากขึ้นนายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า เราจะต้องใช้เรือเข้าไปขนของออกมาเพิ่มเติมและทางอบต.หญ้าปล้องก็ได้จัดถุงยังชีพเข้ามาให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมให้ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่เราได้วางเอาไว้ทั้งนี้เนื่องจากว่าท่าน ผวจ.ศรีสะเกษได้สั่งการเอาไว้แต่ต้นแล้วว่า ถ้ามีมวลน้ำเข้ามาเยอะก็จะต้องเป็นชุมชนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษแน่นอนที่จะได้รับผลกระทบ เราจึงได้มีการมอบภารกิจเอาไว้แล้ว ขณะนี้แต่ละหน่วยก็ได้เริ่มปฏิบัติภารกิจแล้ว ทั้งเรื่องการขนย้ายและการจัดเตรียมที่รองรับพี่น้องอพยพและอาหารการกินที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน โดยได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้มีชุมชนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษที่ประสบภาวะน้ำท่วมแล้วจำนวน 9 ชุมชนเนื่องจากว่าระดับน้ำสูงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ยังกล่าวด้วยว่า ตนขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ตามเส้นทางน้ำโดยทางด้านที่เป็นทางเทือกเขาพนมดงรักซึ่งเป็นต้นน้ำ ตอนนี้มวลน้ำในปัจจุบันอ่างของเราทั้ง 16 แห่งที่เป็นต้นน้ำเต็มทั้ง 16 แห่งแล้วและน้ำได้ล้นสปิลเวย์มีความสูงเกินกว่า 1 เมตรแล้ว ทำให้มีมวลน้ำค่อนข้างเยอะมากและขณะนี้มีพายุโนรู ได้เริ่มเคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์เข้ามาแล้วถึงฝั่งประเทศเวียดนาม โดยพายุโนคาดว่าจะขึ้นทางอีสานเหนือแต่ว่าอาจจะทำให้ฝนตกมากขึ้นดังนั้นในส่วนของพี่น้องประชาชนก็ขอให้จัดเตรียมข้าวของมีค่าให้ระมัดระวังเตรียมการอพยพ และขอให้ติดตามสถานการณ์โดยตลอด ขอให้กำนันผู้ใหญ่บ้านท้องที่ท้องถิ่นช่วยเฝ้าระวังและแจ้งเตือนตลอดเวลาถ้าได้รับการแจ้งเตือนก็ให้เคลื่อนย้ายอพยพทันทีตามที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำไว้แล้ว