ส.ส.ชูวิทย์ กุ่ย เยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้าน ขนย้าย วัว-ควาย หนีน้ำท่วม
ทีมข่าวเฉพาะกิจ / ข่าว.
ส.ส.ชูวิทย์ กุ่ย เยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้าน ขนย้าย วัว-ควาย หนีน้ำท่วม
วันนี้ ( 28 ก.ย.65 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ได้มีฝนตกต่อเนื่องมาหลายวันในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลและแม่น้ำสาขาจำนวนหลายสายได้เอ่อล้นตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและไร่นาของราษฎรเป็นวงกว้าง ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 14 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ เดชอุดม นาจะหลวย น้ำยืน ทุ่งศรีอุดม น้ำขุ่น ม่วงสามสิบ ตาลสุม เขื่องใน ดอนมดแดง อำเภอตระการพืชผล พิบูลมังสาหาร และอำเภอสว่างวีระวงศ์ จำนวน 69 เทศบาล/ตำบล 396 ชุมชน/หมู่บ้าน นายชูวิทย์ (กุ่ย) พิทพักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของเราว่า ที่อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมูล และ น้ำในลำเซบก เอ่อล้น ท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลจิกเทิง อำเภอตาลสุม น้ำในแม่น้ำมูลและลำน้ำเซบก ไหลมาบรรจบกัน ทำให้ระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง จนชาวบ้านต้องอพยพและขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง พร้อมกับ ขนย้ายวัว ควาย และเครื่องใมือในการเกษตร จาก ตำบลจิกเทิง อ.ตาลสุม ข้ามฟาก ด้วยแพ มาบ้านท่าลาด ตำบลเหล่าแดง อ.ดอนมดแดง ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เพื่อความปลอดภัยจากสถานการณ์น้ำท่วม ที่มีแนวโน้มว่า ระดับน้ำจะสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหลังจากตนทราบข่าว ก็รีบรุดไปเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ต.จิกเทิง อ.ตาลสุม ทันที โดยมีน้องกรานต์ สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ ลูกสาวของตน ร่วมลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านด้วย
ในวันเดียวกันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง พายุ “โนรู” ฉบับที่ 12 ว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันนี้ (28 ก.ย. 65) พายุไต้ฝุ่น “โนรู” ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนามแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่างเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทยบริเวณจังหวัดอำนาจเจริญและอุบลราชธานี ในวันที่ 29 ก.ย. 65 โดยพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกลัทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งให้ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วยสำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ขาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 1 ต.ค. 65