สระแก้ว-อสม.สระแก้ว 8,000 คน เคาะประตูบ้านต้านโควิด-19
ภาพ-ข่าว:สวาท เกตุงาม
โรคปอดอักเสบ ที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จัดเป็นโรคระบาดอันตรายร้ายแรง และเพื่อเป็นการสกัดการแพร่ระบาดของโรคชนิดนี้ จึงต้องมีมาตรการป้องกัน เฝ้าระวัง อย่างเข้มงวดและจะต้องได้รับความร่วมมือร่วมแรง ร่วมใจจากทุกคน ในการป้องกัน ซึ่งโรคระบาดชนิดนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และอย่าประมาทโดยเด็ดขาด
สำหรับจังหวัดสระแก้ว เป็นจังหวัดที่มีอาณาเขตติดกับประเทศกัมพูชา ระยะทางกว่า 165 กิโลเมตร และยังเป็นเส้นทางผ่านของนักท่องเที่ยวสู่สิ่งมหัศจรรย์ของโลก คือ นครวัด นครธม ประเทศกัมพูชา หากมีการระบาดของโรค จึงไม่ใช่สิ่งไกลตัว ดังนั้น ชาวจังหวัดสระแก้วทุกคน จึงต้องปฏิบัติตน ป้องกัน เฝ้าระวัง ตลอดเวลา จนกว่าโรคชนิดนี้ ไม่มีการระบาด
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้มีโครงการ อสม.เคาะประตูบ้าน ต้านโควิด-19 โดย มอบหมายให้ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทุกหมู่บ้าน ในจังหวัดสระแก้ว กว่า 8,000 คน ลงพื้นที่ทุกหลังคาเรือน ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนของประชาชน ให้เฝ้าระวัง และป้องกันโรคโควิด-19 หากพบว่า ในครอบครัวมีอาการ เป็นไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หายใจไม่สะดวกให้พบแพทย์ทันที หากเป็นบุคคลที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เช่น ประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน มาเก๊า เป็นต้น จะต้องกักตัวเองในพื้นที่ ที่ทางราชการกำหนดให้ หรือบ้านของตัวเอง ถึงแม้จะไม่มีไข้ก็ตาม จนครบ 14 วัน
ต่อมา นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นายวิทยา มากปาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว แพทย์หญิง อรรัตน์ จันทร์เพ็ญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอทุกอำเภอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอ เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสระแก้ว ครั้งที่1/2563 ที่ห้องประชุมสิรินธร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว
ทั้งนี้เพื่อทบทวนคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสระแก้ว โดยนำเสนอประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 พร้อมบทบาทหน้าที่ และการดำเนินการควบคุม มาตรการ การเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคของจังหวัดสระแก้ว และได้หารือถึงการบริการจัดการ ดูแลแรงงานชาวไทย ที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้และกลับจากประเทศในกลุ่มเสี่ยงด้วย