เพชรบุรี-คืบหน้าชุดพญาเสือเปิดยุทธการทวงคืนผืนป่าแก่งกระจาน

ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร   

      คืบหน้าชุดพญาเสือเปิดยุทธการทวงคืนผืนป่าแก่งกระจานคืน 500 ไร่ พบถูกแผ้วถางทำไร่ ขณะตรวจยึดพบไฟป่าโหมไหมพื้นที่กว่า 50 ไร่

วันนี้ 12 มี.ค.63 นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ได้เปิดยุทธการปราบปราม และทวงคืนผืนป่าต้นน้ำ ที่ถูกบุกรุก แผ้วถางป่า เผาป่า ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ระหว่าง 9 -13 มีนาคม โดยมีผู้อำนวยการส่วนอุทยาน เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า “ชุดพญาเสือ” ไฟป่าแก่งกระจาน(ตอนบน) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตำรวจตระแวนชายแดน ร้อยที่ 144 กองบินกระทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพยาเสือ และเจ้าหน้าที่กรมอุทยาน กว่า 80 นาย ที่สถานีควบคุมไฟป่าแก่งวกระจาน(ตอนบน) หมู่ที่ 5 ตำบลยางน้ำกลัดเหนือ อำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี
       เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าตรวจยึดพื้นที่ถูกบุกรุกแผ้วถางป่า ไร่กล้วย ไร่สับปะรด บริเวณป่าบ้านห้วยกระซู่ ป่าบ้านห้วยสาริกา และป่าบ้านคะเมยบน จำนวน 3 แห่ง กว่า 331 จุด พื้นที่ร่วมประมาร 500ไร่ จากการตรวจสอบพบมีการบุกรุก แผ้วถาง เผาป่า โค่นไม้ เพื่อเตรียมปรับพื้นที่เพาะปลูกในพื้นที่ พบต่อไม้มีลักษณะใหม่ อายุระหว่าง 5- 20ปี ถูกตัดโค่น กระจายอยู่ทั่วจำนวนมาก บริเวณสภาพดินที่ถูกบุกรุกปกคลุมด้วยเถ้าถ่าน แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวผ่านการถูกทำลายมาไม่เกิน 1 เดือน เบื้องต้นจากการรวบรวมข้อมูลทราบว่าพื้นที่ที่ถูกบุกรุก เป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าใหม่หลังจากปี พ.ศ 2557 อย่างชัดเจน และบริเวณป่ารอบข้างพบเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ล้อมรอบ เจ้าหน้าที่จึงทำการจดบันทึกตรวจยึด เพื่อเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกป่าในเขตอุทยานแห่งชาจิแก่งกระจาน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการบินสำรวจตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกบุกรุกแผ้วถางป่า เผาป่า บริเวณป่าบ้านแม่คะเมยบน ได้เกิดเหตุไฟป่าเผาผาญพื้นที่ป่าต้นน้ำอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายประมาณ 50ไร่ เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือชาวบ้านในพื้นที่เผาป่าเพื่อเตรียมปลูกพืชผลทางการเกษตร
        นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี กล่าว่าสำหรับยุทธการดังกล่าว ได้เปิดปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 9 -13 มีนาคม โดยการสนธิกำลังหลายฝ่ายเข้าตรวจยึด ขึ้นบินโดยเฮลิคอปเตอร์ของกองบินกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าตรวจสอบ ตรวจยึดพื้นที่ จำนวน 131 จุด บนพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่ถูกบุกรุก แผ้วถางป่า พร้อมได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เป็น 5 ชุด เดินเท้าเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ที่ถูกบุกรุกแผ้วถางป่า ใช้อากาศยานไร้คนขับตรวจสอบในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งอยู่บริเวณ ป่าบ้านห้วยกระซู่ ป่าบ้านห้วยสาลิกา และป่าบ้านแม่คะเมยบน จำนวน 3 จุด พบร่องรอยของการบุกรุกแผ้วถางป่าเผาป่า การตัดไม้ทำลายป่า ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปถึงพื้นที่เพื่อดูสภาพจริงๆ เพื่อจะได้รู้และเห็นถึงพื้นที่ที่มีการบุกรุกด้วยสาเหตุใด โดยพื้นที่ไหนผิดหลักเกณฑ์เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจยึดและจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
          ขณะที่ น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ อดีตประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ตนเองนั่งเป็นประธานคณะกรรมการมาหลายสมัย ที่ผ่านมาทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการตามแนวทางมติครม.แต่ละฉบับทุกประการ คือ ตรวจสอบพื้นที่ที่มีราษฏรทำกินในพื้นที่ว่ามีพิกัด และพื้นที่มากน้อยแค่ไหน ในแต่ละราย โดยมีการชะลอการจับกุมดำเนินคดี และให้ราษฏรที่ทำกินทุกรายพิสูจน์การถือครองและการได้มาว่า มีการอยู่มาก่อนจริงหรือไม่ หากจริง ก็จะออกเอกสารสิทธ์ให้ทุกราย แต่ในพื้นที่ที่มีปัญหา พบว่า ราษฏรเหล่านี้ ไม่ยอมเข้าพิสูจน์การถือครอง ปฏิเสธมาโดยตลอด ชอบแต่อ้างสิทธิตามมติครม.แต่ไม่ยอมพิสูจน์ ตามกระบวนการ จึงเป็นปัญหาต่อการบริหารจัดการและพบว่า มีการบุกรุกขยายพื้นที่ทำกินมาโดยตลอด จึงยืนยันได้ว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอนทุกประการ