ประจวบคีรีขันธ์-โรงแรมหรูแบกรับค่าใช้จ่ายเดือนละล้าน

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ 

             ประจวบโรงแรมหรูแบกรับค่าใช้จ่ายเดือนละล้าน หลังการท่องเที่ยวทรุดหนักไม่มีคนเข้าพัก

           วันที่ 17 มกราคม 2564 เวลา 16.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด – 19 รอบที่ 2 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อธุรกิจการท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถูกกำหนดเป็นพื้นที่สีแดงที่มีการแพร่ระบาดเป็น 1 ใน 28 จังหวัด สร้างความหวั่นวิตกต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว งดกิจกรรมการเดินทาง เป็นผลไม่ต่างจากการล็อคดาวน์ในช่วงการระบาดรอบแรก

             นายชวรัช มานะกิจสมบูรณ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมแอททีบูทีค (@T Boutique Hotel) ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดที่เกิดขึ้นในประเทศ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงปัจจุบัน จากเมื่อช่วงกลางปี 63 เริ่มมีมาตรการผ่อนคลายจากรัฐบาล และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวกลับมา โดยเฉพาะตลาดระดับกลางถึงบน แต่ปัจจุบันสถานกาณ์ย่ำแย่ กระทั่งยอดการเข้าพักเป็นศูนย์ รวมถึงการจองล่วงหน้าก็ถูกยกเลิก ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ประกอบการห้องพัก ทั้ง โรงแรม รีสอร์ท เกสต์เฮ้าส์ ในพื้นที่ ต.คลองวาฬมีอยู่ประมาณ 20 ราย ได้รับผลกระทบทุกราย ซึ่งผลกระทบดังกล่าวขยายตัวเป็นวงกว้าง ตั้งแต่สถานประกอบการห้องพัก ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านขายของฝาก
ส่วนโรงแรมแอดทีบูทีคเป็นโรงแรมที่มีกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อสูง ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่มีปัญหาเรื่องรายได้หรือผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่กลับไม่มียอดการเข้าพัก เนื่องจากขาดความมั่นใจและหวั่นวิตกการแพร่ระบาดเชื้อ รวมถึงมาตรการตรวจสอบการเดินทางข้ามจังหวัดของภาครัฐ จึงทำให้กลุ่มเป้าหมายนี้ งดกิจกรรมเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งผลกระทบที่โรงแรมได้รับโดยตรงคือ ขาดรายรับตลอดทั้งเดือน ขณะเดียวกันที่ยังคงมีรายจ่าย คือ ค่าแรงพนักงาน ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า และอื่น ๆ ประมาณเดือนละ 1 ล้านบาท ขณะที่ยังคงต้องจ้างพนักงานโรงแรมกว่า 50 คน เพราะหากปลดคนงานจะทำให้กระทบต่อรายได้ของครอบครัว จึงเลือกที่จะดูแลพนักงานของโรงแรมต่อไป เพราะผู้ประกอบการทุกรายคาดหวังว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยวกลับมา และช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยว ทางโรงแรมทำการรีโนเวทบางส่วน นอกจากนี้ การผ่อนคลายของภาครัฐที่อนุญาติให้โรงแรมสามารถจัดการประชุมได้ในครั้งละไม่เกิน 100 คน โดยมีระยะห่างและมาตรการป้องกัน ซึ่งมีหน่วยงานราชการบางแห่งมาขอจองพื้นที่ไว้ ซึ่งช่วยได้บ้างพอประมาณ
“ก่อนหน้านี้ นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นค่อนข้างสูง ยังคงมีการเดินทางท่องเที่ยว แต่ปัจจุบันจากการประกาศมาตรการของรัฐมีกระทบอย่างชัดเจนคือลูกค้าหายไป ทำให้มีต้นทุนคือ เงินเดือนพนักงาน สาธารณูปโภคอื่นๆ ตกเดือนละ 1 ล้านบาท และทางโรงแรมไม่มีนโยบายเลย์ออฟพนักงาน ช่วยเหลือลูกจ้างกันต่อไป เพราะเป็นส่วนสำคัญของโรงแรม หากเป็นสถานประกอบที่ไม่มีทุนสำรอง ผู้ประกอบการบางรายเลือกที่จะปิดตัวและปลดพนักงาน เพื่อรักษาธุรกิจไว้” นายชวรัช กล่าว

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/