อุบลราชธานี-ผช.รัฐมนตรี แนะชาวนาวิธีเลือกใช้ปุ๋ยให้ถูกสูตร เพื่อเพิ่มผลผลิตก้าวกระโดด

ภาพ/ข่าว:ทีมข่าวจังหวัดอุบลราชธานี

          วันนี้ ( 13 ก.ค.67 ) ผู้สื่อข่าวของเรารายงานว่า นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ หรือ ชูวิทย์ กุ่ย ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย อดีตส.ส.อุบลราชธานี 9 สมัย พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแนะนำชาวนาในเรื่องของการเลือกปุ๋ยใช้ให้ถูกสูตร ตรงตามความต้องการของต้นข้าว เพื่อเพิ่มผลผลิต/ไร่ อย่างก้าวกระโดด โดย นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ กล่าวว่า ไม่ว่าพ่อแม่พี่น้องเกษตรกรที่ทำนาจะเลือกปุ๋ยในโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง หรือจะซื้อปุ๋ยด้วยตนเอง ชาวนาควรเลือกปุ๋ยให้ถูกสูตร ตรงตามความต้องการของต้นข้าว เพื่อเพิ่มผลผลิต/ไร่อย่างก้าวกระโดด ตามคำแนะนำของ “ศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์” คือ 1. 25-7-14 ข้าวไม่ไวแสง (ข้าว กข.หมายเลขต่างๆ) 2. 20-8-20 ข้าวไวแสง (หอมมะลิ 105) ที่เหลือสูตรต่างๆ ในบัญชีรายชื่อที่ชาวนามีสิทธิ์ซื้อ ล้วน ไม่ตรงกับความต้องการของต้นข้าว ทั้งนั้น โดยเฉพาะสูตรปุ๋ยที่ไม่มี K หรือ K ต่ำๆ แต่ที่มีปรากฎอยู่ในบัญชีให้เลือก เพราะเป็นการผลักดันของผู้ทำธุรกิจที่อาจมีปุ๋ยเหล่านี้ค้างอยู่ในคลังสินค้า ปุ๋ย 2 สูตร ที่ตรงตามความต้องการของข้าว ทั้งสองชนิด 1. ข้าวไม่ไว้แสง 25-7-14 และ 2. ข้าวไวแสง 20-8-20 ยืนอยู่หัวแถวของบัญชีสูตรปุ๋ยที่ชาวนามีสิทธิ์เลือก ย่อมบ่งบอกถึงความเหมาะสมของปุ๋ยทั้งสองสูตรนี้ ชาวนาจะรวย หาก 1.ปราบศัตรูพืช 2.แก้ดินเป็นกรด 3.เลือกปุ๋ยถูกสูตร 4.ใส่ปุ๋ยถูกเวลา 5.ไม่เผาแปลงนา ชาวนาจะรวยด้วยผลผลิตต่อไร่ที่จะเพิ่มขึ้นกว่า 300 กก.ข้าวเปลือก/ไร่ การใส่ปุ๋ยจำนวนมาตรฐาน คือ 1 กระสอบ 50 กก./ไร่ ให้แบ่งใส่ 3 ครั้งดังนี้ 1. ในกรณีจะต้องหมักฟาง ให้ใส่ปุ๋ย ที่เรียกว่า ปุ๋ยรองพื้น จำนวน 10 กก./ไร่ (เป็นปุ๋ยครั้งที่ 1) ไปพร้อมกับการหมักฟาง ปุ๋ยจะช่วยให้การย่อยสลายฟางดีขึ้น ตอนจะหว่านข้าว ไม่ต้องใส่ปุ๋ยอีกค่ะ ถือว่าใส่ไปแล้ว ปุ๋ยนี้ให้ประโยชน์ช่วยย่อยฟาง ในกรณีที่ไม่ต้องหมักฟาง ก็ใส่ปุ๋ยในขั้นตอนหลังไถเตรียมแปลงปลูก การใส่ ปุ๋ยรองพื้น ช่วยให้พืชโตและแข็งแรงกว่าการ รอ ใส่ปุ๋ยหลัง 20-25 วัน 2. ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 จำนวน 20 กก./ไร่ ตอนข้าวอายุ 25-30 วัน หรือเรียกว่า ข่วงข้าวแตกกอ 3.ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 3 จำนวน 20 กก /ไร่ ชาวนา เรียกปุ๋ยรับรวง คือใส่ตอนข้าวตั้งท้องหากซื้อปุ๋ยสูตรยอดนิยม 46-0-0 และ 16-20-0 มาแล้ว ขอแนะนำให้ลดจำนวนใส่รวมกันลง 10-15 กก./ไร่ แล้วใส่ปุ๋ยสูตร 0-0-60 ลงไป 10-15 กก./ไร่ ผลผลิตก็จะดีกว่า การใส่ปุ๋ยที่ไม่มี K (ปุ๋ยตัวท้าย)
          นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ กล่าวอีกว่า ชาวนาจะรวย มีรายได้เพิ่มไร่ละ 3000 บาท/ไร่ ได้อย่างไร ทีมเกษตรเพื่อไทยนำเสนอ ใส่ปุ๋ยถูกสูตร ใส่ถูกที่ถูกเวลา ปกติ ชาวนา อีสาน ทำนาข้าวหอมมะลิ ได้ผลผลิต 200/250กิโล ต่อไร่ ใสปุ่ยสูตรเดิม 46.0.0/ 16.20.0 วันนี้ทีมงานเกษตรเพื่อไทย ขอให้ลอง ใส่ปุ๋ย 20.8.20/1ไร่1กระสอบ ผลผลิตข้าวหอมมะลิ จะได้ไร่ละ 380/400กิโล ต่อไร จากเดิมได้200/250 กิโล ขายข้าวคุณภาพต่ำ(แปรสภาพได้ข้าวต้นต่ำกว่า40%)ได้โลละ10/12บาท/ได้เงินไร่ละไม่เกิน 3000บาท ในทางกลับกัน ลองมาใส่ปุ๋ยสูตรใหม่ 20.8.20 จะเพิ่มผลผลิต 350/400 กิโลต่อไร่ ข้าวคุณภาพดี (แปรสภาพได้ข้าวต้นเกิน50%) ขายได้ราคา กิโลละ15/16บาท ได้ไร่ละ 6000 ต่อไร่/ ถ้าเกษตรกรมีที่นา10ไร่ เคยใช้ปุ๋ย 5 กระสอบ5000/ วันนี้นา10ไร่ใส่10 สอบ10000/รัฐบาลช่วย5000 ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มราคา ได้เงินเพิ่มไร่ละ3000/10=30000บาท ดีกว่าไหมครับ / ไม่เชื่อ ต้องลอง เกษตรกรหมดหนี้ หายจน “โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง”