ประจวบคีรีขันธ์-“เอกนัฏ” นำทีมจิตอาสาปลูกป่าลดคาร์บอนฯ สืบสานพระราชปณิธาน ที่ อช.เขาสามร้อยยอด
ภาพ/ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร
เมื่อวันที่ 10 ต.ค.67 ที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด หมู่ 2 ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสา “กระทรวงอุตสาหกรรมปลูกป่าชายเลน เพิ่มการดูดซับก๊าซเรือนกระจก ลดภาวะโลกร้อน” เนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2567 โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ นายสมเจตน์ จันทนา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ คณะจิตอาสาของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีแนวโน้มรุนแรงภูมิภาคของโลก สาเหตุหลักมาจากกิจกรรมของมนุษย์ ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรมเห็นถึงความสำคัญที่จะส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ อันจะส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน รวมทั้งให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์และการฟื้นฟูป่าชายเลนให้มีสภาพสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น การจัดกิจกรรมจิตอาสา”กระทรวงอุตสาหกรรมปลูกป้าชายเลน เพิ่มการดูดซับก๊าซเรือนกระจก ลดภาวะโลกร้อน”เนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2567 ในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ภายใต้โครงการจิตอาสา”อุตสาหกรรมรวมใจ ดูแลสิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ ลม ไฟ” ณ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ได้จัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน จำนวน 100 ไร่ มีกิจกรรมประกอบด้วย การปล่อยปูดำ ซึ่งเป็นปูทะเล จำนวน 83 ตัว กิจกรรมปลูกป่าชายเลน จำนวน 15 ไร่ และจะดำเนินการปลูกให้ครบ 100 ไร่ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด โดยมีกล้าไม้ จำนวน 11,565 กล้า ประกอบด้วย ต้นจิกทะเล, โกงกางใบใหญ่, โกงกางใบเล็ก, โปรงแดง, โปรงขาว, ถั่วขาว, พังกาหัวสุมดอกแดง
“กิจกรรมดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่สำคัญของภาครัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2608 ขอฝากทุกท่านร่วมกันรณรงค์รักษาผืนป่าชายเลนแห่งนี้ให้คงอยู่และเติบโต สร้างคุณประโยชน์ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน ถึงแม้เป็นเพียงการเริ่มต้นเพียงเล็กน้อย แต่ในอนาคตผืนป่าชายเลนจะยังคงสร้างคุณประโยชน์แก่โลกของเราได้อีกมาก ขอชื่นชม และขอขอบคุณภาคีเครือข่ายหน่วยงานราชการ ประชาชน และผู้ประกอบกิจการโรงงาน ที่ร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมทำความดีให้เกิดผลสัมฤทธิ์ โดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและผืนป่าอย่างแท้จริง” นายเอกนัฏ กล่าวตอนท้าย.