ร้อยเอ็ด-ชาวบ้านโร่ขอความคุ้มครองจากผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และตำรวจ หลังเข้าใจว่าโดนพฤติกรรมข่มขู่จากแก๊งค์ยี่ปั๊ว
ภาพ/ข่าว:คมกฤช พวงศรีเคน
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านนาชม ตำบลแสนสุข อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีชาวบ้านนาชมหมู่ที่ 16,13 ตำบลแสนสุข อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวนหลายคน ได้แก่ นางบัวไข นันทะโคตร อายุ 73 ปี นางทองคูณ มูลสาร นายตะวัน รุ่งแจ้ง หรือน้องออย และคณะ ได้เดินทางมาขอความคุ้มครองจากผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และตำรวจ ที่ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ตำบลแสนสุข อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนางอาทิตย์ แถวนาชุม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 นายวิษณุ มะลิรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 นายสายัณห์ พรมนิกร กำนันตำบลแสนสุข พันตำรวจโท สมโภช แสวงแก้ว รองผู้กำกับสืบสวนสอบสวน สภ.พนมไพร กำลังให้กำลังใจและเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย เพื่อให้เกิดความเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย จากการเกิดเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเรียกว่าข่มขู่จากกลุ่มนายทุนโดยมีเจ้ใจ เป็นหัวหน้า เป็นคนภาคกลางและคณะที่เป็นชายฉกรรจ์ พูดเสียงดังสักลายเต็มตัว มาพร้อมกัน 1 คันรถตู้และรถฟอร์จูนเนอร์อีก 1 คัน เพื่อให้ไปเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทยพร้อมแสกนใบหน้า ที่ห้างโลตัส สาขายโสธร เมื่อวานนี้ แล้วยึดเอาบัญชีไปใช้ในการรับโควต้าสลากกินกินแบ่งรัฐบาลดิจิตัล จนวันนี้ยังมีการตามหาชาวบ้าน หมู่ 16 และหมู่ 13 ที่ได้รับสิทธิ์จากกองสลากเพื่อให้ไปเปิดบัญชีให้กลุ่มของตนเอง เพื่อที่จะนำบัญชีไปรับโควต้า ต่อไป
นางอาทิตย์ แถวนาชุม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 กล่าวว่า ชาวบ้านเดินทางมาขอให้คุ้มครอง ตนเองเป็นผู้นำหมู่บ้านก็ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ปรึกษาทั้ง ผญบ.หมู่ 13 ท่านกำนัน เจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีพันตำรวจโทสมโภช แสวงแก้ว รองผู้กำกับ สืบสวนสอบสวน สภ.พนมไพร ให้คำปรึกษาและพาไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.พนมไพร ตามลำดับและได้เดินทางมารวมตัวที่นี่ชาวบ้านไม่รู้จะไปไหนเนื่องจากกลัวแก๊งค์นี้ ที่ดูแล้วน่ากลัวมากเพราะเมื่อวานบางคนก็โดนพาตัวขึ้นรถตู้ไปแสกนใบหน้าและเปิดบัญชีและยึดบัญชีไปแล้ว เวลาประมาณ 11.00 น. ได้มีรถตู้ทะเบียน นง 1999 สมุทรปราการ เดินทางเข้าหมู่บ้าน มาที่บ้านนายตะวัน รุ่งแจ้ง หรือน้องออย ซึ่งเป็นอีกคนที่มีสัญญากับกองสลาก และเป็นเป้าหมายของคนกลุ่มนี้ พันตำรวจโทสมโภช แสวงแก้ว รอง ผูกำกับฯพร้อมด้วย ผญบ. กำนัน และผู้สื่อข่าว เดินทางไปที่บ้านน้องออย ซึ่งกำลังโดนมุงจากคนกลุ่มนี้เพื่อที่จะพาขึ้นรถตู้ไปเปิดบัญชีและแสกนไปหน้า ให้กบุ่มตนที่ธนาคารโดยมีเจ๊ใจ เป็นหัวหน้า โดยเจ้ใจ ได้บอกว่าน้องออยเซนต์สัญญา กับตน 1 ปี เพื่อเปิดบัญชีให้ เริ่มสัญญาเมื่อเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา ยังไม่ครบสัญญา แต่น้องออยจะไม่ให้โควต้าามสัญญาจึงเป็นการผิดสัญญากับตน ตนได้ให้เงินน้องออยค่าตอบแทนปีละ 25,000 บาท ถ้าน้องออยไม่ไปกับตนเพื่อทำสัญญาทำตามข้อตกลงตนจะฟ้องศาลและเรียกค่าผิดสัญญา 10 เท่า คือ 250,000 บาท จากน้องออย แต่น้องออยขอไม่พูดอะไร แบะไม่ทำตามที่กลุ่มนี้ต้องการ ส่วนญาติๆที่มานั่งเป็นเพื่อนช่วยเคลียและให้กำลังใจ ต่างถามว่าไปกับเขามั้ย น้องบอกไม่ไปไม่เอาแล้ว ไม่กลัวด้วย ทางแก๊งค์จึงบอกน้องออย แล้วเดินทางออกมาเจรจากับเจ้าหน้าที่และเดินทางกลับ ในระหว่างการเจรจา มีชายฉกรรจ์คนหนึ่งได้ปะทะคารมกับ ผญบ.หมู่ 13 ด้วยเสียงอันดังมาก ผญบ.บอกว่าผมมาคุ้มครองลูกบ้านผม สักพักทาง ตำรวจช่วยมาได้มาไกล่เกลี่ย แยกกัน หลังจากนั้นได้เดินทางมารวมตัวกันที่บ้าน ผญบ.หมู่ 16 เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านทุกคนที่ถูกกระทำแล้วไม่สบายใจ ส่วนมากเป็นผู้หญิง และอายุมาก กลัวจนไม่กล้าอยู่บ้าน จะมาพักอยู่บ้านผู้ใหญ่บ้านก่อน ทางตำรวจจึงให้กำลังใจ ว่าตรวจตราความเรียบร้อยอยู่ตลอด ให้ทุกคนเบาใจได้ แต่เหตุการณ์ยังคงมีต่อเนื่อง เนื่องจากแก๊งค์นี้ช่วงบ่ายยังตามหาชาวบ้านหมู่ 13 เพื่อไปเปิดบัญชีต่อไป เพราะบอกว่าพวกตนมาทวงสัญาตามกฎหมาย
จากการที่ได้สอบถามข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องทราบว่า ชาวบ้านได้ลงทะเบียนเพื่อเป็นผู้ขายสลากดิจิทัลในปี 65 ซึ่งแต่ละบ้านที่มีผู้ได้รับสิทธิ์ จะลงทะเบียนกันที่ศาลากลางบ้าน โดยจะมีผู้นำหมู่บ้าน และกลุ่มคนไม่ทราบว่าเป็นใครในตอนนั้น มาลงทะเบียนในระบบออนไลน์ให้ ต่อมาปี 66 มีการประกาศผู้ได้รับสิทธิ์ ที่ลงทะเบียนไว้ แล้วแต่ใครจะได้ตามประกาศ ได้คนละ 500 ใบ ขายในแอปเป๋าตัง ปรากฏว่าเวลาที่ชาวบ้านไปทำสัญญาที่กองสลาก กลุ่มที่รับลงทะเบียนให้ตามหมู่บ้านต่างๆจะอ้างตัวมาขอรับสิทธิ์ ว่าตัวเองเป็นคนคีย์ข้อมูลลงทะเบียนให้ ต้องได้รับสิทธิ์ จะเอาสิทธิ์ชาวบ้านมาบริหารจัดการทั้งหมด ชาวบ้านคนไหนยอม จะได้เงินรายปี แล้วแต่จะให้ 2,000 หรือ 15,000 หรือ 25,000 /ปี จากกลุ่มคนพวกนี้ โดยจะยึด บช.ธนาคาร สแกนใบหน้า ทำระบบในโทรศัพท์เก็บไว้บริหารเอง คนไหนไม่ยอมเวลาไปกองสลาก จะริบบัตรคิว ไม่ให้ทำสัญญา ชาวบ้านขาดสิทธิ์จำนวนมาก ภายหลังชาวบ้านไปขอความช่วยเหลือคุ้มกัน ขอความอนุเคราะห์ให้ทำสัญญาจาก กองสลาก จาก รมต. จาก สภ.ก็ได้ทำสัญญาอย่างปลอดภัย กลุ่มคนพวกนี้ไม่พอใจ ก็ลงมาจาก กทม. ตามมาบังคับให้ชาวบ้านไปเปิด บช.ใหม่ บช.เดิม ที่ผูกกับแอบเป๋าตังยกเลิกเอาอันใหม่มาแทน สแกนใบหน้าเอาสิทธิชาวบ้านไปบริหารเอง ดังกล่าว