กาญจนบุรี-ชาวบ้านเทศบาลวังกะ ทวงถาม ผวจ. กรณียื่นหนังสือคัดค้านการรื้อตลาดสดอายุเกือบ 50 ปี
ภาพ/ข่าว:รักษพล พุ่มพฤกษ์
วันที่ 9 กันยายน 2567 ณ ที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ชาวบ้านส่งตัวแทนกว่า 20 คน ผู้ที่ค้าขายในตลาดสด เขตเทศบาลอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมป้ายข้อความคัดค้านการรื้อตลาดสดเขตเทศบาลวังกะ รวมตัวเดินทางไปขอพบกับ ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อติดตามทวงถามขอทราบความคืบหน้า กรณีเรื่องที่ชาวบ้านได้ยื่นหนังสือการคัดค้านไม่ให้มีการรื้อตลาดสด เขตเทศบาลอำเภอสังขละบุรี ซึ่งผู้ค้าขายไม่ได้ทราบมาก่อนล่วงหน้า เพื่อสร้างตลาดแห่งนี้ขึ้นใหม่ ไม่มีการทำประชาคมให้ผู้ค้าทราบ การที่ทางเทศบาลแจ้งมาว่าได้ทำการประชาคมแล้ว นั้นมันคนละเรื่องกัน ที่ชาวบ้านทั้งหมดเซ็นต์ นั้นเป็นเรื่องของที่ทางเทศบาลสัญจรประจำเดือนเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องการรื้อตลาดสด และทางเทศบาลจะทำการรื้อภายในเดือนกันยายน ที่จะถึงนี้ โดยไม่มีการจัดหาสถานที่ให้กับผู้ค้าให้ชัดเจนก่อน ชาวบ้านผู้ค้าในตลาดสดทั้งหมดจึงต้องออกมายื่นหนังสือให้ทางจังหวัดดูแลเรื่องนี้ว่าโปร่งใสหรือไม่ และชาวบ้านยังแจ้งว่าเทศบาลรีบดำเนินการเนื่องจากงบประมาณการก่อสร้างเกือบ 50 ล้านบาท และจะใช้เวลาการก่อสร้างในเวลา 6 เดือน ซึ่งทางชาวบ้านที่ค้าขายในตลาดแห่งนี้ไม่เชื่อว่าจะเสร็จได้ทัน อีกทั้งต้องการให้มีการปรับปรุงบางส่วนให้ถูกสุขอนามัยของเทศบาลน่า คงรักษาตลาดเก่าแห่งนี้ไว้เป็นอัตลักษณ์ คู่กับ สะพานอุตตมานุสรณ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมกัน และผู้ประกอบการค้าในตลาดแห่งนี้ในอดีต นายสุนทร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ (หรือเสี่ยฮุก) ได้สร้างแล้วมอบตลาดแห่งนี้ให้ประชาชนได้ค้าขายกัน และปัจจุบัน เสี่ยฮุก ได้เสียชีวิตไปแล้ว ตลาดแห่งนี้ได้มีลูกหลานดูแลอยู่ ซึ่งทางลูกหลานต้องการให้มีการทำประชาคมจากผู้ค้าในตลาดก่อน หากประชาคมแล้วออกมาเช่นใดก็จะให้เป็นไปตามนั้น
และจากการเดินทางมาของตัวแทนในครั้งนี้ นายกรกรณ์ อึ้งภากรณ์ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งได้รับมอบหมายจาก ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งติดราชการนอกสถานที่เป็นผู้แทนรับเรื่องของตัวแทนชาวบ้านทั้งหมด แต่ตัวแทนชาวบ้านไม่ยอมต้องการพบผู้ว่าฯ ดังนั้น นายกรกรณ์ อึ้งภากรณ์ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมฯ จึงได้แจ้งว่าเรื่องนี้ทางจังหวัดได้ดำเนินการแจ้งไปยังนายอำเภอสังขละบุรี ไปก่อนหน้านี้แล้ว และการดำเนินการต้องใช้เวลา เนื่องจากจะต้องส่งไปแต่ละหน่วยงานก่อน แต่ชาวบ้านต้องการรับทราบความชัดเจนในวันนี้
ดังนั้นทาง นายกรกรณ์ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมฯ จึงได้ขอให้มีการส่งตัวแทนจำนวน 5 คน ขึ้นไปเจรจาภายในห้องโดยใชเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้ง 5 คน ได้ออกจากห้องแล้วเดินทางไปยังสำนักงาน ปปช. จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นหนังสือให้กับทาง เจ้าหน้าที่ ปปช. โดยทาง ปปช. ได้รับเรื่องที่ตัวแทนชาวบ้านไปยื่น โดยแต่ทางเทศบาลวังกะ ยังไม่ได้มีการดำเนินการเรื่องนี้ แต่มีการอ้างว่าได้กระทำการประชาคมไปแล้วนั้นไม่เป็นเรื่องจริง เป็นเพียงแค่การประชุมเรื่องอื่น แล้วนำไปอ้างว่าเป็นการประชาคมไปแล้ว ซึ่งชาวบ้านที่ค้าขายไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน