อุบลราชธานี-ฝ่ายปกครองสนธิกำลังยึดบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองอุบลฯ
ภาพ/ข่าว:ทีมข่าวจังหวัดอุบลราชธานี
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 11 ก.ย.67 ที่ผ่านมา โดยการอำนวยการของนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี (ด้านความมั่นคง) , ปลัดจังหวัดอุบลราชธานี และนายอำเภอเมืองอุบลราชธานี สั่งการให้ นายโรมรัก ภูหวล ป้องกันจังหวัดอุบลราชธานี นำผู้ช่วยป้องกันจังหวัดอุบลราชธานี สมาชิก อส.สังกัด ร้อย.อส.จ.อุบลราชธานี บูรณาการร่วม ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองอุบลราราชธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี หลังจากมีพลเมืองดีได้ร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ว่า ที่ร้านดังกล่าวทำการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้เยาวชน
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวข้างต้น พบว่าร้านดังกล่าวเป็นร้านค้าขายบุหรี่ไฟฟ้าจริง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน ตรวจสอบภายในร้าน พบตู้โชว์มีวางสินค้าและอุปกรณ์การสูบ วางที่ตู้กระจกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า รวม 38 รายการ จำนวน 808 ชิ้น เจ้าหน้าที่ ได้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้รับผิดชอบดูแลร้าน ว่า 1.เป็นความผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเอาเสีย รับจำนำ หรือรับไว้ประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรค 1 แห่ง พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ประกอบ ข้อ 4 แห่งกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้บารากู่และบารากู่บุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามในการนำเข้ามาราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ต้องระวางโทษจับคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอาหารเข้ากันแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ , 2.ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่องห้ามขายห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” ต้องระวางโทษจับคุกไม่เกิน3ปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้รับผิดชอบดูแลร้านรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึกจับกุม ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนสภ. เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป