ประจวบคีรีขันธ์-เทศบาลบ้านกรูดประสาน ปภ.4 ช่วยสูบน้ำดิบแก้ปัญหาวิกฤตน้ำประปา
ภาพ/ข่าว:พิสิษฐ์ รื่นเกษม
เทศบาลบ้านกรูดประสาน ปภ.4 ช่วยสูบน้ำดิบแก้ปัญหาวิกฤตน้ำประปา
วันที่ 26 มกราคม นายธงชัย เพชรสกุลทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านกรูด อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายพชรดนัย วัชโรทัย ผอ.กองช่าง เทศบาลตำบลบ้านกรูด เปิดเผยว่า ขณะนี้เขตเทศบาลซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศ ประสบภาวะวิกฤต จากปัญหาขาดแคลนน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปา เนื่องจากฝนทิ้งช่วงยาวนาน เบื้องต้นได้ประสานรถสูบน้ำระยะไกลจากศูนย์ป้องกันแปละบรรเทาสาธารณภัย ( ปภ.4)เขต 4 สูบน้ำจากคลองทุ่งเรือยาวเพื่อผลิตน้ำประปาเพิ่มการผลิตให้มากขึ้น โดยสนับสนุนค่าน้ำเชื้อเพลิงวันละ 400 ลิตร ไม่รวมค่าเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ ปภ. จากนั้นได้แจ้งให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด และมีความจำเป็นต้องจ่ายน้ำเป็นเวลา จนกว่าอ่างเก็บน้ำมรสวบที่ หมู่ 4 ต.ชัยเกษม จะมีปริมาณน้ำเพียงพอ โดยเร่งสั่งการเพื่อให้ประชาชนบรรเทาความเดือดร้อน ก่อนพ้นจากการดำรงตำแหน่งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ หลัง กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่
นายธงชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมทรัพยากรน้ำได้วางท่อน้ำดิบยาวกว่า 20 กิโลเมตร ถึงเขตเทศบาลแล้วตามแผนงานที่กำหนด แต่จากปัญหาสันอ่างทรุดตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบันทำให้เทศบาลประสบปัญหาน้ำต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 หรือมีหน่วยงานใดออกมายืนยันว่าอ่างมรสวบจะกักเก็บน้ำ 1.8 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ได้เมื่อใดหลังจากใช้งบสร้าง 37.9 ล้านบาท แต่สันอ่างชำรุดหลายครั้ง ดังนั้นเพื่อบรรเทาปัญหาในระยะสั้น ไม่ให้มีผลกระทบกับชาวบ้านผู้ใช้น้ำกว่า 2000 ครัวเรือน รวมทั้งผู้ประกอบการโรงแรมและรีสอร์ทอีกจำนวนมาก จึงแจ้งให้ใช้น้ำอย่างประหยัด เนื่องจากประเมินสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้น่าจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา
ด้านนายพชรดนัย วัชโรทัย ผอ.กองช่าง เทศบาลตำบลบ้านกรูด กล่าวว่า สำหรับอ่างเก็บน้ำมรสบ อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลังจากสันอ่างชำรุดหลายครั้ง ที่ผ่านมาได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 2564 จำนวน 118 ล้านบาท ก่อสร้างใหม่ หลังจากเดิมใช้งบ 37.9 ล้านบาทก่อสร้างนาน 6 ปี แต่ไม่สามารถใช้กักเก็บน้ำได้ ส่งผลกระทบกับประชาชนผู้ใช้เพื่อการอุปโภค บริโภคและน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ ต.ธงชัย และ ต.ชัยเกษม นายพชรดนัย กล่าว
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/