ปทุมธานี-ใช้จุรินทรีย์เลี้ยงปลา เป็ด แพะ สร้างรายได้

ปทุมธานี-ใช้จุรินทรีย์เลี้ยงปลา เป็ด แพะ สร้างรายได้

ภาพ/ข่าว:อนันต์ วิจิตรประชา

เกษตรกรใช้จุรินทรีย์เลี้ยงปลา เป็ด แพะต้นทุนต่ำสร้างรายได้สวนกระแสเศรษฐกิจ

            เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 มีนาคม 2563 ที่ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าการเกษตร (ศพก) บ้านน้องพร ร้านค้าวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านคลอง 5 ตำบลบึงคำพร้อย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี นายดอกรัก สุคนที อายุ 54 ปี เกษตรกรใช้จุรินทรีย์เลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย แปรรูปสร้างรายได้ให้กับครอบครัวต่อยอดเลี้ยงเป็ดไข่ และเลี้ยงแพะเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ฯ ให้เกษตรกรจากทั่วประเทศ             โดยนายดอกรัก สุคนที ได้เลี้ยงปลาดุก พันธ์บิ๊กอุย และปลาเบญจพรรณควบคู่ไปด้วย บนพื้นที่ 60 ไร่ จำนวน 30 บ่อ อาหารที่ใช้เลี้ยงปลา คือ ซี่โครงไก่และไส้ไก่ ผสมกับน้ำหมักจุลินทรีย์ ขายปลาได้บ่อละประมาณ 500,000 บาท ต้นทุน 60 เปอร์เซ็นต์กำไร 40 เปอร์เซ็นต์ โดยนำปลาที่เลี้ยงไปแปรรูปตากแห้งเพิ่มมูลค่า โรงเรือนที่ตากปลาแห้งทำความสะอาดด้วยน้ำหมักจุรินทรีย์ มีความสะอาด ปลอดเชื้อโรคและไม่มีแมลงวันรบกวน ส่วนหัวปลาที่เหลือ ๆ นำไปบนผสมกับอาหารเป็ดและน้ำหมักจุรินทรีย์ให้เป็ดกินออกไข่ทุกวัน โดยเลี้ยงบนพื้นที่ 3 ไร่ จำนวน 1 โรงเรือน แบ่งออกเป็น 4 เล้า เล้าละ 1,000 ตัว สภาพเล้าเป็ดไม่มีกลิ่นเหม็นเหมือนเล้าเป็ดทั่วไป เนื่องจากทำความสะอาดด้วยการฉีดน้ำหมักจุรินทรีย์ ขี้เป็ดในโรงเลี้ยงนำไปเป็นปุ๋ยปลูกหญ้าเนเปียร์ เพื่อเลี้ยงแพะพันธ์แบล็คเบงกอล ที่ได้รับพระราชทานฯ จำนวน 12 ตัว ทั้งนี้ในการเลี้ยงแพะ เกษตรกรได้ผสมน้ำหมักจุรินทรีย์กับน้ำให้แพะกิน แพะจึงมีสุขภาพสมบูรณ์ ภายใน 6 เดือนออกลูกมาอีก 8 ตัว นอกจากนี้เกษตรเองยังเปิดร้านค้าวิสาหกิจชุมชนเพื่อขายผลิตพันธ์ของตนเองไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลาง              นายดอกรัก สุคนที กล่าวว่า ได้ทำการประมงเกษตรการเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย ต่อมาได้มีการแปรรูปเป็นปลาตากแห้งขายได้กำไร โดยของเหลือจากการแปรรูปอย่างเช่นหัวปลาทำการเลี้ยงเป็ดไข่ จากนั้นปศุสัตว์จังหวัดได้แนะนำให้เลี้ยงแพะโดยการนำแพะพระราชทาน พันธ์แบล็คเบงกอล มามอบให้ ร่วมถึงได้ทดลองเลี้ยงแพะด้วยจุรินทรีย์ ที่เราหมักเอง ปัจจุบันเราได้นำจุลินทรีย์มาเลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ดอยู่ก่อนแล้ว ส่วนที่เหลือจากการเลี้ยงเป็ดคือ ขี้เป็ด เราได้นำขี้เป็นมาใส่ปลูกหญ้าเนเปียร์ ซึ่งเป็นหญ้าที่มีโปรตีนสูงเหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์ ซึ่งการเลี้ยงแพะ เราได้นำน้ำหมักจุรินทรีย์ผสมน้ำให้แพะกิน ทำให้ระบบขับถ่ายของแพะดี มูลเขาก็ไม่เหม็น ส่วนภายในเล้าแพะก็ฉีดจุรินทรีย์ทำความสะอาดเล้า สิ่งเหล่านี้ทำให้เล้าแพะร่วมถึงเล้าเป็ดปลอดโรค สัตว์ที่เราเลี้ยงอยู่ดีกินดี ดังนั้นสถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์การเลี้ยงรู้ให้เกษตรที่ยังไม่มีความรู้ในการใช้จุรินทรีย์ในการเลี้ยงสัตว์ ประกอบด้วยการเลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ดและการเลี้ยงแพะ ที่มีการเกื้อกูลกันหากเกษตรกรในประเทศไทยคิดและทำโดยไม่ได้ทำอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างเดียว

              นายสมควร ปิยะพงศ์เดชา ปศุสัตว์จังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า เป็นความโชคดีในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ้งราคาแพะ เนื้อแพะ กิโลกรัมละ 250 บาทขึ้นไป นมแพะกิโลกรัมละ 50 บาท ราคาค่อนข้างสูงมาก ขณะนี้เราได้ส่งออกเนื้อแพะ ที่มีมาตรฐานระดับ GMP ต่างประเทศให้การยอมรับ ซึ่งได้มีการทำการค้าแบบ G to G ปีหนึ่งเป็นแสนตัวไม่เคยมีปรากฏการณ์แบบนี้มาก่อนในประเทศไทยทำให้เกษตรมีอาชีพที่ยั่งยืน กรมปศุสัตว์เราไม่ทอดทิ้งเกษตรกรเรามีเจ้าหน้าที่ ปศุสัตว์อำเภอ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริม หัวหน้ากลุ่มสุขภาพ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสินค้าปศุสัตว์ ได้แวะเยี่ยมเกษตรกรอย่างสม่ำเสมอ และทางกรมปศุสัตว์ได้ตั้งกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะอย่างดีอยู่แล้วทั่วประเทศ สำหรับผู้เลี้ยงรายย่อยจะเลี้ยงมากเลี้ยงน้อยต้องพึงระวังถึงโรคภัยไข้เจ็บ แพะเลี้ยงไม่ยากแต่เรื่องการดูแลต้องมีความรู้ความเอาใจใส่ ซึ่งก็ต้องทำการตลาดให้มีจำนวนมากพอแล้วก็สามารถส่งต่างประเทศได้ด้วย โดยคุณดอกรัก สุคนที เป็นเกษตรกรตัวอย่างที่ใช้เศษวัสดุให้มีมูลค่าสูงสุด ทำให้เกษตรอยู่ได้ ลดต้นทุนการผลิต ขายได้ราคา และมีความมาตรฐาน ได้รับการดูแลจากภาครัฐสร้างความเข้าใจ อยากให้พี่น้องเกษตรกร มาเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านคลอง 5 ของ คุณดอกรัก สุคนที ซึ่งท่านให้ความรู้กับเกษตรกรทั่วประเทศอย่างสม่ำเสมอ เกษตรกรที่สนใจรวมกลุ่มกันเพื่อเรียนรู้วิถีเกษตรโดยใช้จุรินทรีย์จากคุณดอกรัก สามารถประสารมาทางปศุสัตว์จังหวัดปทุมธานี เบอร์ 02-967-9770.

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!