ศรีสะเกษ-นทท.แห่สัมผัสอากาศบริสุทธ์ยามเย็นที่ผาพญากูปรีชาย

ศรีสะเกษ-นทท.แห่สัมผัสอากาศบริสุทธ์ยามเย็นที่ผาพญากูปรีชาย

ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข 

             นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศบริสุทธ์ยามเย็นที่ผาพญากูปรีชายแดนไทย-เขมร ขณะที่หลวงพ่อพุฒเผยสร้างจุดชมวิวแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ประชาชน 2 แผ่นดินได้ชมธรรมชาติที่สวยงามและสร้างรายให้ชาวบ้านตามศรีสะเกษ-แนวตะเข็บชายแดน(มีคลิป)

                 เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหา อากาศที่เราหายใจเข้าไปไม่ใช่อากาศที่บริสุทธิ์ เพราะมีฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM2.5 รวมถึงเชื้อโรค และสารปนเปื้อนต่าง ๆ ที่มองไม่เห็นอีกมากมาย ซึ่งที่กำลังเป็นปัญหารุนแรงน่ากลัวมากก็คือ เชื้อไวรัส โควิด – 19 ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป ต่างพากันมองหาแหล่งที่มีสภาพอากาศที่บริสุทธิ์ เพื่อสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายของตนเอง และพบว่า ที่จุดชมวิวผาพญากูปรี ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายบ้านแซรไปร – ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ประมาณ 4 กม. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศบริสุทธิ์ซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งพระครูโกศลสิกขกิจหรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ร่วมกับ พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ อดีต ผบ.กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ในขณะนั้น และทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี อบต.ไพรพัฒนา และทุกส่วนราชการได้จัดสร้างขึ้นมา ปรากฏว่า ในช่วงเย็นของวันนี้ ได้มีบรรดานักท่องเที่ยวพากันนำครอบครัว ญาติพี่น้องพากันเดินทางมาสูดอากาศบริสุทธิ์และชมบรรยากาศยามเย็นของผาพญากูปรีกันอย่างคึกคักมาก นักท่องเที่ยวต่างพากันบันทึกภาพความสวยงามไว้เป็นที่ระลึกและพากันชมความสวยงามตามธรรมชาติของต้นน้ำห้วยสำราญที่กั้นระหว่าง อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กับ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ โดยต้นน้ำห้วยสำราญเป็นลำห้วยสำคัญที่ไหลลงไปสู่ตัว จ.ศรีสะเกษ เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคหล่อเลี้ยงประชาชนชาวศรีสะเกษ

                 นางกอบเกื้อ อาจสำแดง อายุ 76 ปี ชาว อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานหลายปีแล้ว และลูกหลานได้พามาเที่ยวชมผาพญากูปรี กล่าวว่า การที่ตนได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ผาพญากูปรีแห่งนี้แล้ว ทำให้ตนรู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก เพราะว่า อากาศตามแนวเทือกเขาพนมดงรักจะเป็นอากาศที่บริสุทธิ์ปราศจากสิ่งปนเปื้อน เมื่อสูดอากาศเข้าไปแล้ว ทำให้ตนหายใจโล่ง ร่างกายหายจากอาการอ่อนเพลียเหนื่อยล้า ซึ่งการมาเที่ยวชมผาพญากูปรีในครั้งนี้ นับว่าเป็นความโชคดีมากที่ตนและลูกหลานได้มีโอกาสกราบนมัสการพระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของชาวไทยและชาวกัมพูชา ถือว่าเป็นสิริมงคลแก่ตนและครอบครัวลูกหลานเป็นอย่างยิ่ง

                พระครูโกศลสิกขกิจหรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา กล่าวว่า การที่อาตมาภาพในฐานะประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงได้จัดสร้างจุดชมวิวผาพญากูปรีแห่งนี้ขึ้นมานั้น เนื่องจากว่า ต้องการให้เป็นจุดท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน และเพื่อเป็นการเปิดหน้าตาสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่สวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ บริเวณนี้เป็นหน้าผาสูงชันที่มีความสวยงามตามธรรมชาติอยู่บนเทือกเขาพนมดงรักที่เป็นแนวชายแดนกั้นระหว่างไทย – กัมพูชา ประชาชนสามารถผ่านเข้าออกได้ทั้ง 2 ประเทศ ทำให้มีชาวไทยและชาวกัมพูชาพากันมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจเป็นจำนวนมาก โดยได้จัดให้มีการประดับตกแต่งรอบบริเวณอย่างสวยงาม มีรูปปั้นกูปรีขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินดินด้านหน้าของหน้าผา มีการนำเอาหินโบราณอายุกว่า 170 ล้านปีมาจัดเป็นสวนหินสวยงามมาก ซึ่งจะเป็นจุดชมวิวที่รองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เข้ามาเที่ยวบริเวณนี้ ส่งผลให้ประชาชนชาวไทยที่อยู่ตามหมู่บ้าน 2 ข้างถนนสายนี้ สามารถนำเอาสิ่งของมาจำหน่ายทั้งทำที่พักแรม ร้านอาหาร ทำให้มีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ส่งผลดีต่อการค้าและการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดียิ่ง

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!