กาญจนบุรี-ชาวกาญจน์แห่เซลฟีต้นมหาโพธิ์สีชมพู อายุกว่า 100 ปี
ภาพ/ข่าว:รักษพล พุ่มพฤษ์
ชาวกาญจน์แห่เซลฟีต้นมหาโพธิ์สีชมพู อายุกว่า 100 ปีที่ขึ้นมาพร้อมกับการสร้างเมืองกาญจน์ภายใน”พิพิธเมืองกาญจน์”
วันนี้(7 มีนาคม 2563)เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบริเวณพื้นที่บ้านพักจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี(หลังเก่่า)หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านท่านหนึ่งว่าได้มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ของเทศบาลเมืองกาญจนบุรีร่วมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ใช้เส้นทางในการเดินทางบริเวณถนนคนเดินปากแพรกได้แตกตื่นกับปรากฎการณ์ทางธรรมชาติของต้นมหาโพธิ์ที่ขึ้นอยู่ระหว่างพื้นที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี(หลังเก่า)กับกำแพงเมืองด้านข้างประตูเมืองกาญจนบุรี จากปกติใบโพธิ์ที่เราเคยเห็นและพบเห็นใบโพธิ์มักจะเป็นสีเขียวเข็มหรือเขียวอ่อน แต่ใบโพธิ์ของต้นมหาโพธิ์แห่งนี้กลับกลายเป็นใบสีชมพูแดงทั่วทั้งต้นซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยพบเห็นกันหรือเห็นก็ตามแต่ไม่สวยงามหรือสง่าเหมือนต้นมหาโพธิ์ต้นนี้ ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติทึ่เกิดขึ้นที่ต้นมหาโพธิ์สีชมพูต้นนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายภาพหรือจุดเซฟฟี่ให้กับชาวกาญจน์และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทีีเดินทางมาท่องเที่ยวในเขตพื้นที่เมืองกาญจน์ที่ได้พบต้นมหาโพธิ์สีชมพูต่างหยิบกล้องและโทรศัพท์ที่ตัวเองพกมาได้ทำการถ่ายภาพรวมถึงการเซฟฟี่เป็นหมู่คณะสร้างความฮือฮากันเป็นอย่างมากกับความสวยงามของต้นมหาโพธิ์สีชมพูต้นนี้เป็นอย่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมต่อว่า ต้นมหาโพธิ์สีชมพูต้นนี้มีอายุกว่า 100 ปี เนื่องจากต้นโพธิ์ต้นนี้เกิดขึ้นมาพร้อมกับการสร้างเมืองกาญจนบุรีแห่งใหม่ซึ่งเดืิมเมืองกาญจนบุรีเก่าตั้งอยู่ที่ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง ซึ่งห่างจากจุดนี้ประมาณ 20 กม. พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 จึงเห็นตัวเมืองกาญจน์เก่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ไม่เหมาะแก่การเป็นเมืองหน้าด้านด้านทิศตะวันตกของประเทศไทย พระองค์จึงได้ทำการย้ายเมืองกาญจนบุรีเก่าที่ตั้งอยู่ที่บ้านท่าเสา ตำบลลาดหญ้ามาตั้งเมืองกาญจนบุรีแห่งใหม่ที่ตำบลปากแพรกซึ่งพื้นที่ดังกล่าวยังเหมาะกับการค้าขายต่างๆซึ่งในช่วงดังกล่าวไม่ค่อยใช้เส้นทางบนบกเป็นเส้นทางในการเดินทางและการค้ามักจะนิยมใช้เส้นเดินทางน้ำทางเรือมากกว่า จุดยุทธศาสตร์บริเวณนี้จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำการสร้างเมืองกาญจน์ใหม่ขึ้น ณ จุดนี้
ในปัจจุบันพื้นที่บริเวณดังกล่าวทางจังหวัดกาญจนบุรีได้มอบหมายและยกให้เทศบาลเมืองกาญจนบุรีเป็นผู้ดูแลและบริหารรวมไปถึงจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี(หลังเก่า)ที่ยกให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาในการสร้างเมืองว่ามีประวัติความเป็นมาเช่นไรร่วมไปถึงบริเวณพื้นที่โรงงานกระดาษไทยที่คนกาญจน์ไดัร่วมกันขอคืนพื้นที่จากเอกชนมาเป็นของคนไทยและของชาวกาญจน์ชาวกาญจนบุรีจึงได้ร่วมกันลงชื่อคัดค้านการต่อสัญญากับทางบริษัทเอกชนบริษัทหนึ่งโดยรายชื่อดังกล่าวจะมอบให้ท่านนายกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวโดยได้มอบผ่านมาทางนายจิระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/