ตาก-ปลูกป่าร่วมกับพืชเศรษฐกิจเพื่อใช้ประโยชน์ ชาวบ้านสามารถสร้างรายได้
ภาพ/ข่าว:ชวลิต วิกุลชัยกิจ
โครงการสร้างป่า สร้างรายได้ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เกิดขึ้นเนื่องจาก ทรงห่วงใยราษฎรบนพื้นที่สูง เนื่องจากต้นน้ำลำธารถูกบุกรุกทำลาย ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ จึงพระราชทานแนวทางการพัฒนา การฟื้นฟูป่าต้นน้ำ โดยปลูกไม้หลาย ๆ ระดับ หลาย ๆ ชนิด มีไม้เรือนยอดสูงลดหลั่นกันลงมา ให้มีความเป็นป่า และการปลูกป่าร่วมกับพืชเศรษฐกิจเพื่อใช้ประโยชน์ ชาวบ้านสามารถสร้างรายได้ รวมทั้งทำให้มีป่าเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง ใจความว่า…
“…สร้างป่าสร้างรายได้ เป็นแนวทางการพัฒนาพื้นฟูป่าไม้ เพื่อให้ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกับป่าและมีรายได้เสริมจากการปลูกพืชโดยที่ไม่ทำลายป่าไม้ โดยการปลูกป่าร่วมกับพืชเศรษฐกิจมีการปลูกไม้หลายๆ ระดับ หลายๆ ชนิด มีทั้งไม้เรือนยอดสูงลดหลั่นกันลงมา นอกจากจะทำให้ชาวบ้านมีรายได้แล้ว ยังทำให้มีป่าไม้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย…”
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบรรยายในการประชุมสัมมนา “รักษ์ป่าน่าน” 10 มีนาคม 2557
ณ ศูนย์การเรียนรู้และบริการวิชาการ เครือข่ายแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน โดยนำร่องโครงการ ที่อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน และอำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย เมื่อปี พ.ศ. 2556 จากนั้นขายพื้นที่ดำเนินงาน ในจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และจังหวัดตาก ซึ่งจังหวัดตาก ได้เริ่มดำเนินการเมื่อ ปี พ.ศ. 2558 โดยมีหลายหน่วยงาน ร่วมดำเนินการ เช่น กรมป่าไม้ กศน. กรมการปกครอง กรมพัฒนาที่ดิน กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และภาคเอกชน เป็นต้น
โครงการส่วนพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงร่วมกับ กรมป่าไม้ส่วนกลาง กศน.ส่วนกลาง กรมการปกครองส่วนกลาง ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงาน เพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรค์และแนวทางแก้ไข ในการดำเนินโครงการให้ประสบความสำเร็จ รวมทั้งเป็นการให้กำลังใจสมาชิกโครงการอีกด้วย
ในวันที่ 10 มีนาคม 2563 ได้ลงพื้นที่ อำเภอแม่ระมาด ในส่วนพื้นที่ดำเนินงานโดยกรมป่าไม้ ได้เข้ามาตรวจติดตามสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สร้างป่า สร้างรายได้ บ้านขุนห้วยแม่ท้อ ตำบลสามหมื่น ในกิจกรรมแปรรูปกะลากาแฟ ซึ่งปัญหาแต่ก่อนนั้น จากเดิมที่จำหน่ายผลกาแฟสด เพียงอย่างเดียว ซึ่งต้องนำไปจำหน่ายในระยะทางที่ไกล และถูกเอารัดเอาเปรียบเรื่องราคาที่ไม่เป็นธรรม จนบางครั้งไม่ได้เก็บผลผลิตไปจำหน่าย เนื่องจากไม่คุ้มค่า และส่งผลให้ต้นกาแฟไม่ได้รับการดูแล ซึ่งกาแฟ เป็นพืชเกษตรชนิดหนึ่งที่ต้องการร่มเงา ปลูกร่วมกับการฟื้นฟูป่าได้
เมื่อไม่สนใจปลูกหรือดูแลกาแฟ จึงส่งผลต่อการฟื้นฟูป่าไปด้วย เมื่อได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรในการแปรรูป ให้กับกลุ่มสมาชิก และได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการปลูก บำรุงดูแลรักษา รวมทั้งการแปรรูปกาแฟ จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตาก กรมวิชาการเกษตรร่วมกับบริษัทวิริยะกิจการเกษตร โดยจำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้น รวมทั้ง บริษัทวิริยะกิจการเกษตร ก็ร่วมรับซื้อผลผลิตกาแฟ ของโครงการสร้างป่า สร้างรายได้ ตามพระราชดำริ ฯ ในราคาที่ยุติธรรม กลุ่มสมาชิกโครงการ จึงมีรายได้มากขึ้น ต้นกาแฟจึงถูกบำรุงดูแลควบคู่ไปกับแปลงเข้าร่วมโครงการ สร้างป่า สร้างรายได้ ตามพระราชดำริ
อีกทั้งได้ร่วมพูดคุย สัมภาษณ์ นายเล่โพ ดีสมไพบูลย์ สมาชิกโครงการ จากบ้านกูเตอร์โกล หมู่ที่ 4 ตำบลสามหมื่น เมื่อทราบถึงพื้นที่เข้าร่วมโครงการ เป็นแปลงฟื้นฟูสภาพจากพื้นที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวได้อย่างดี กลับมาเป็นพื้นที่สีเขียว ที่เต็มไปด้วยไม้ป่าและพืชเศรษฐกิจ และมีรายได้ต่อไร่ สูงกว่าการทำพืชเชิงเดี่ยว ซึ่งคณะติดตาม ได้กล่าวแสดงความชื่นชม และขอบคุณ สมาชิโครงการ สร้างป่า สร้างรายได้ ตามพระราชดำริ ทุกคน ของอำเภอแม่ระมาด และให้ตั้งใจดำเนินโครงการต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/