เพชรบุรี-พบวัตถุคล้ายยาไอซ์ หนักกว่า 300 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในรถเก๋ง
ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร
พบวัตถุคล้ายยาไอซ์ หนักกว่า 300 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในรถเก๋ง จอดทิ้งริมถนนเพชรเกษม
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 7 มกราคม พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผู้ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.โกศล ยามา รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ. ประสม หงษ์โต ผกก.สภ.บ้านลาด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี เเละเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการภูธรจังหวัดเพชรบุรี ร่วมกันตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นยาเสพติดประเภทยาไอช์ ที่ห่อหุ้มอยู่ในซองฟลอยด์พลาสติกสีเขียวแถบเหลืองมีภาษาจีนอยู่กลางซอง ที่บรรจุอยู่ในถุงปุ๋ยซุกซ่อนอยู่ท้ายรถเก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า วิช สีขาว หมายเลขทะเบียน ฌถ 5547 กทม ซึ่งจอดดับเครื่องคากุญแจอยู่ริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ใกล้เคียงกับทางเข้าร้านไทยวัสดุ ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เบื้องต้นยังไม่พบว่าใครเป็นผู้ขับขี่แล้วนำมาจอดทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อไร
เจ้าหน้าที่นำรถมาตรวจสอบที่ สภ.บ้านลาด แกะถุงออกพบวัตถุดังกล่าวมีลักษณะเกล็ดก้อนใส่ คล้ายกับยาเสพติดประเภทที่ 1 ยาไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณกว่า 300 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้จัดส่งตัวอย่างตรวจหาสารเมทแอมเฟตามีนในรูปที่เป็นสารบริสุทธิ์ให้แน่ชัดอีกครั้ง แล้วจะได้มีการแถลงข่าวในโอกาสต่อไป
อย่างไรก็ตามหากวัตถุดังกล่าวเป็นยาเสพติดประเภทยาไอซ์จริงคาดว่าจะมีมูลค่าซื้อขายในประเทศกว่า 60 ล้านบาท และถ้าหากหลุดลอดการจับกุมออกสู่ภายนอกประเทศได้จะมีมูลค่าเพิ่มสูงมากกว่า 100 ล้านบาท
ทั้งนี้มีรายงานว่า ก่อนที่จะพบรถเก่งคันดังกล่าวขับมาจอดทิ้งไว้บริเวณริมถนนเพชรเกษมหน้าร้านไทยวัสดุนั้น โดยเมื่อเวลาประมาณ16.00 น.มีรถขบวนของบุคคลระดับ VIP วิ่งมาจาก จ.ราชบุรี โดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ เพื่อผ่าน จ.เพชรบุรี ระหว่างทางเจ้าหน้าที่ที่ติดตามขบวนได้สังเกตุเห็นรถเก๋งคันดังกล่าว อาศัยวิ่งเข้ามาต่อท้ายขบวนลักษณะมีพิรุธ และเมื่อถึงช่วง อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี รถเก๋งคันดังกล่าวได้จอดริมถนนอย่างกระชั้นชิด สังเกตเห็นผู้ขับขี่ลงจากรถมีทีท่ารุกลี้รุกรน เจ้าหน้าที่ที่ติดตามขบวนจึงแจ้งให้ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรีดำเนินการตรวจสอบ จนพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายยาไอซ์เป็นจำนวนมากอยู่ภายในรถ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างแกะรอยจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงกับถนนเพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับผู้ขับขี่รถเก๋งคันที่ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยอย่างละเอียด เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นขบวนการลำเลียงยาเสพติดลงสู่ภาคใต้โดยใช้วิธีรับจ้างขับรถต่อเป็นระยะๆ อย่างไรก็ตามจะต้องรอผลตรวจยืนยันจากทางวิทยาศาสตร์อีกครั้งจึงจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดีต่อไป