ปทุมธานี-รพ.ธรรมศาสตร์ฯชี้แจงผู้ป่วยโควิดตายรายแรก

ปทุมธานี-รพ.ธรรมศาสตร์ฯชี้แจงผู้ป่วยโควิดตายรายแรก

ภาพ/ข่าว:อนันต์ วิจิตรประชา

รพ.ธรรมศาสตร์ฯชี้แจงผู้ป่วยโควิดตายรายแรก พร้อมประชุมรับ-ส่งต่อผู้ป่วย

          เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 เมษายน 2563 ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี , นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี , ศ.ดร. สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ , รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ร่วมประชุม “ระบบรับ-ส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารักษาต่อที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และรพ.สนามธรรมศาสตร์ พร้อมมอบอุปกรณ์ทางแพทย์มาตรฐานสูง หน้ากาก N99 และ ชุดPPE ให้โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดปทุมธานี

            โดยการประชุมแนวทางการดูแลผู้ป่วย โควิด-19 ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อมีผู้ป่วยมีผลบวกเชื้อโควิด-19 ทางโรงพยาบาลจะมีขั้นตอนดังนี้ 1. ให้ผู้ป่วยโควิด-19พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ หากมีอาการหนักหรือรุนแรงจะให้การดูแลรักษาผู้ป่วยภายในห้องความดันลบ (Negative Pressure) ส่วนผู้ป่วยอาการที่ไม่รุนแรงจะอยู่ในห้อง Cohort ward ซึ่งเป็นห้องรวมกับผู้ป่วยโควิดท่านอื่น 2. เมื่อผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาและสังเกตอาการพบว่าอาการดีขึ้นแล้ว ทางโรงพยาบาลจะส่งผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ 3. โรงพยาบาลสนามรับเฉพาะผู้ป่วยที่ผ่านการดูแลกับทางโรงพยาบาลมาแล้วอย่างน้อย 7 วัน โดยผู้ป่วยมีอาการคงที่ (ส่งไปพักรักษาตัวหรือกักกันตัวต่อที่โรงพยาบาลสนามจนครบ 14 วัน) 4. โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ มีบริการทางการแพทย์เพื่อดูแลผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลสนามตามมาตรฐาน (มีการติดตามอาการผ่านจอมอนิเตอร์วงจรปิด เพื่อดูอาการและใช้ติดต่อสื่อสารกับผู้ป่วย โดยเจ้าหน้าที่ไม่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วย 5. หากผู้ป่วยมีอาการแย่ลง จะรับคนไข้กลับมารักษาต่อที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ อีกครั้งหนึ่ง

             การเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการโควิด-19 ประกอบด้วย 1. ด้านบุคลากร ได้รับการสนับสนุนบุคลากรจากศูนย์สุขศาสตร์ ดังนี้ คณะแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2. ด้านสถานที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ มีเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด จำนวน 60 เตียง ห้องความดันลบ 4 เตียง และโรงพยาบาลสนาม 308 เตียง 3. ด้านวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ปัจจุบันทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ มีการสำรองวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อใช้สำหรับป้องกันบุคลากรไม่ให้ติดเชื้อจากผู้ป่วยไว้เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ จัดหาวัสดุอุปกรณ์ให้เพียงพอพร้อมใช้ 4. ด้านการงบประมาณ โรงพยาบาลรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลสนาม ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนวิกฤตในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น หน้ากาก N95 , ชุด PPE เครื่องมือที่จำเป็นต่าง ๆ รวมถึงเครื่องมอนิเตอร์ที่ใช้ดูแลคนไข้ที่มีจำนวน 308 เตียง ในส่วนของการรับริจาค 1. บริจาคผ่านบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี : รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ , ธ.กรุงเทพ 091-0-20188-8 สาขา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , ธ.ทหารไทย 050-2-00002-9 สาขา ธรรมศาสตร์-รังสิต , 2. ผ่านระบบ E-donation คลิก หรือ ทางริชเมนู Line@ : https://lin.ee/C9QBk04 (ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า) โอนผ่านเลขบัญชีธนาคารติดต่อขอรับใบเสร็จได้ที่..https://lin.ee/C9QBk04

           แนวทางการรับผู้ป่วย COVID-19 ของ “โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์” ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์จะต้องมีการยืนยันครบ 5 ข้อดังนี้ 1. ผู้ป่วยได้รับการรักษาในโรงพยาบาลมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 วัน มีผลภาพถ่ายรังสี (X-Ray) และสัญญาณชีพปกติ (อุณหภูมิไม่เกิน 75 องศาเซลเซียส และ Oxygen saturation มากกว่า 95%) 2. ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตนเองได้ สามารถสื่อสารรู้เรื่อง ไม่ก้าวร้าว และไม่มีความเสี่ยงทางจิตเวช 3. ผู้ป่วยแข็งแรงไม่มีปัจจัยเสี่ยง กลุ่มอาการไม่รุนแรง (Mind symptoms) ไม่มีไข้ 4. ต้องมีการเบิกยารักษา COVID-19 สำหรับให้ผู้ป่วยรับประทานด้วยตัวเองจนครบแผนการรักษาของแพทย์ 5. โรงพยาบาลต้นทางยินดีมารับผู้ป่วยกลับเข้ารักษาในโรงพยาบาลต้นทาง หากผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้กรณีไม่เข้าเกณฑ์ให้อายุรแพทย์โรคติดเชื้อเป็นผู้พิจารณา
             จากการสอบถาม รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ในกรณีที่มีผู้ป่วยอายุ 59 ปี ได้มาทางรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติที่ได้ไปรับผู้ป่วยมาจากที่บ้าน ในวันที่ 1 เมษายน 2563 ระหว่างทางมีภาวะไม่รู้สึกตัว เมื่อมาถึงโรงพยาบาลได้ช่วยเหลือกู้ชีพภายในห้องความดันลบของห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ หลังจากนั้นประมาณ 30 นาทีผู้ป่วยได้เสียชีวิต ในวันที่ 1 เมษายน 2563 เรายังไม่ทราบว่าผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 แต่ทางโรงพยาบาล ฝ่ายการแพทย์ต่าง ๆ ได้สงสัยเนื่องจากผู้ป่วยมีอาการไข้และมีโรคประจำตัวมีอาการทรุดอย่างรวดเร็ว จึงได้ตรวจเชื้อพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลออกมาเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2563
             เท่าที่ทางโรงพยาบาลฯได้ชักประวัติทราบว่า ผู้เสียชีวิตได้รับการตรวจจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานีเมื่อ 3-4 วันก่อน จากอาการมีไข้และไอ แต่ไม่ได้รับการตรวจในเรื่องของโควิด-19 ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตรายนี้ต้องรอผลการตรวจจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ว่าเสียชีวิตเพราะโควิด-19 หรือโรคประจำตัวของผู้ป่วยเอง ในส่วนของผู้เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต เราแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เนื่องจากเรามีความสงสัยอยู่แล้ว บุคลากรที่เกี่ยวข้องจำนวน 9 ราย ได้สวมใส่ชุดตามมาตรฐาน ถือว่าไม่มีความเสี่ยงในกรณีนี้ มีการเฝ้าดูอาการ 14 วัน โดยมาทำงานตามปกติสวมใส่หน้ากากอนามัย แต่บุคลากรด้านอื่น ได้แก่ ญาติของผู้เสียชีวิต และผู้ที่ไปรับผู้เสียชีวิตซึ่งไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ได้ทำการสอบสวนโรค เบื้องต้นอยู่ในการดำเนินการ โดยผู้ใกล้ชิดเมื่อตรวจแล้วผลเป็นบวก ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ก็ยินดีที่จะรับเข้ามาดูแลรักษาต่อไป
ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อยากชี้แจงว่าโรคโควิด-19 ไม่ได้ทำให้เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว อย่างเช่นเดินอยู่ในตลาดแล้วล้มลงเสียชีวิต หรือนั่งอยู่บนรถไฟแล้วเสียชีวิต เป็นการดำเนินโรคที่ไม่ปกติ ในส่วนของการเสียชีวิตจะต้องมีโรคอื่นร่วมอยู่ด้วย เช่น โรคหัวใจล้มเหลว โรคเลือดออกในสมอง ดังนั้นลักษณะของโรคโควิด-19 ไม่ได้มีอาการที่รุนแรงและรวดเร็วจนทำให้เสียชีวิตอย่างทันทีทันใด ปัจจุบันทุกคนมีความเสี่ยงกันทุกคน เพียงแต่ว่าทรัพยากรในการตรวจเชื้อโควิด-19 ยังไม่สมบูรณ์หรือมีพร้อม การตรวจจึงเฉพาะกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น ดังนั้นเราจึงมีการคัดแยกด้วยแอพพลิเคชั่นช่วย โดยทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้ร่วมกับ สวทช. ในการนำแอพพลิเคชั่น DDC CARE มาใช้เพื่อติดตามท่าน 14 วัน แม้ท่านจะมีความเสี่ยงสูง หรือความเสี่ยงต่ำ หรือแม้แต่ไม่แน่ใจ เราก็สามารถติดตามดูแลท่านและสามารถรับการตรวจเชื้อโควิด-19ได้อย่างทันท่วงที.

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!