ราชบุรี-วอน พณ.ช่วยระบายกุ้งตกค้าง 500 ตัน เพราะพิษโควิด-19
ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย
นายกสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย วอนกระทรวงพาณิชย์ ช่วยเร่งประสานหน่วยงานระบายกุ้งก้ามกรามของเกษตรกร ที่ตกค้างไม่ต่ำกว่า 500 ตัน อย่างเร่งด่วน หลังประสบภาวะวิกฤตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่สามารถระบายกุ้งออกสู่ท้องตลาดได้
วันที่ 13 เม.ย.63 นายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว นายกสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย วอนกระทรวงพาณิชย์ ช่วยเร่งประสานหน่วยงานระบายกุ้งก้ามกรามของเกษตรกร ที่ตกค้างไม่ต่ำกว่า 500 ตัน อย่างเร่งด่วน หลังเกษตรกรผู้เพราะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม ประสบปัญหาอย่างหนักจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ทำให้ขณะนี้กุ้งก้ามกรามที่เกษตรกรเลี้ยงไว้อยู่ในช่วงโตเต็มวัย ไม่สามารถส่งออกไปจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศได้ หากเกินกำหนดการเลี้ยง ส่งผลให้กุ้งกินกันเอง สร้างความเสียหายขาดทุนแก่เกษตรกรทั่วประเทศ
นายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว เปิดเผยว่า พื้นที่ อ.บางแพ ขณะนี้ประสบปัญหาอย่างหนัก เรื่องนำกุ้งออกไปขาย เนื่องจาก อ.บางแพ มีเกษตรกรเลี้ยงกุ้งเกือบ 2 หมื่นไร่ จึงมีผลผลิตตกค้างต่ำกว่า 500 ตัน เมื่อกุ้งมีอายุการเลี้ยงครบ 4 เดือน จำจับส่งขาย แต่กลับขายไม่ได้ ก็จะเกิดปัญหากุ้งกินกันเองภายในบ่อ สุดท้ายจะเกิดปัญหาขาดทุน เกษตรกรพยายามขายทางตลาดออนไลน์ แต่มีปัญหาไม่มีความรู้ คิดว่าหลังจากนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งคงเหลือแค่ 10% ส่วนอีก 90% อาจสูญหาย เนื่องจากประสบปัญหาการขาดทุน
อยากวิงวอนผู้ที่มีอำนาจหรือผู้ที่เกี่ยวข้องประสานช่วยเหลือ อย่างบริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด ที่มีอยู่ทุกจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดคอยดูแล ซึ่งละจังหวัดจะมีของดีประจำอยู่แล้ว หากนำบริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด มารวมกันทุกจังหวัดและแลกเปลี่ยนสินค้าของดีซึ่งกันและกัน ก็จะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรทั่วประเทศซึ่งหากทางกระทรวงพาณิชย์รับหน้าที่ เป็นกลไกในการช่วยเหลือครั้งนี้ สามารถประสานงานกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ คาดว่าเกษตรกรก็จะสามารถระบายสินค้าได้อย่างแน่นอน ซึ่งพื้นที่ภาคกลางขณะนี้มีกุ้งตกค้างไม่ต่ำกว่า 3,000 ตัน หากสำนักงานพาณิชย์ช่วยประสานบริษัทประชารัฐแต่ละจังหวัด แล้วให้ทางบริษัทประชารัฐเป็นผู้นำ พร้อมให้ส่วนราชการเป็นหน่วยงานเสริม คิดว่าจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ทั้งประเทศ
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/