เพชรบุรี-พบม้ายังตายต่อเนื่องจากกาฬโรคม้าที่ชะอำ

เพชรบุรี-พบม้ายังตายต่อเนื่องจากกาฬโรคม้าที่ชะอำ

ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร

เพชรบุรีพบม้ายังตายต่อเนื่องจากกาฬโรคม้าที่ชะอำ

            วันที่ 16 เม.ย. นางขนิษฐา ธิติดิลกรัตน์ ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย น.ส.ภัทริน โอภาสชัยทัตต์ นายสัตว์แพทย์ชำนาญการพิเศษ ปศุสัตว์เพชรบุรี นำทีมสอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ มูลนิธิม้าลำปาง คณะสัตว์แพทย์ทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกลุ่ม THE STAILLON THAILAND จิตอาสา อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 760/4 ถนนบ่อแขม ชุมชนบ้านบ่อแขม อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ของนายณรงค์ หอมหวาน อายุ 38 ปีหลังรับแจ้งว่าม้าที่เลี้ยงไว้ได้ป่วยตายลงอย่างกะทันหัน ตรวจดูบริเวณใต้ต้นไม้หลังบ้าน พบซากม้าเพศผู้ สีน้ำตาล อายุประมาณ 20 ปี ราคาที่ซื้อตัวละ 60,000 บาท นอนตายในสภาพตัวแข็ง ตา เหงือก ปากมีสีแดงคล้ำ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 ชั่วโมง จากกาฬโรคแอฟริกาในม้า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการขุดหลุมลึกพร้อมทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อที่ซากม้าก่อนทำการฝังกลบเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคแอฟริกาในม้าในพื้นที่ไม่ให้ขยายวงกว้าออกไป จนถึงขณะนี้มีม้าตายต่อเนื่องเป็นตัวที่ 14 แล้ว

            น.ส.ภัทริน กล่าวว่าทุกอำเภอของ จ.เพชรบุรี สำรวจฟาร์มม้าพบว่ามีคอกม้าเพิ่มขึ้น126 ราย ม้าจำนวน 455 ตัว ลา 5 ตัว ไม่รวมม้าอีก 560 ตัวในสถานีเพาะเลี้ยงม้าและสัตว์ทดลอง สภากาชาดไทย เขตรอยต่อ ชะอำ-หัวหินซึ่งพื้นที่เลี้ยงม้าส่วนใหญ่ 80% อยู่ใน อ.ชะอำ กาฬโรคแอฟริกาในม้าถือเป็นโรคใหม่ โดยมีตัวริ้นซึ่งเป็นแมลงดูดเลือดที่เป็นพาหนะสำคัญของการแพร่ระบาดของโรค ม้าที่ติดโรคจะมีอาการซึมไม่ค่อยกินอาหาร มีไข้สูงกว่า 38.5 องศาขึ้นไปให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอาการของม้า ส่วนวิธีป้องกันที่ดีที่สุดในขณะนี้คือต้องจัดหามุ้งขนาด 32 ตาต่อตารางนิ้วมากางให้ม้าทั้งวันทั้งคืนเพื่อป้องกันตัวริ้นแมลงดูดเลือดที่เป็นพาหะสำคัญของการแพร่โรคและเฝ้าระวัง ปัจจุบันพบอัตราการตายของม้าด้วยโรคนี้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์เนื่องจากยังไม่มียารักษา.

            โดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ขอสรุปสถานการณ์การเฝ้าระวังโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ประจำวันที่ 16 เมษายน 2563
1. รองศาสตราจารย์ สพ.ญ. สุวิชา เกษมสุวรรณ และสพ.ญ. ดร. ศิรยา ชื่นกำไร ได้มาให้ความรู้ และขั้นตอนการดำเนินการฉีดวัคซีนโรค AHS แก่เจ้าของม้าในพื้นที่อำเภอชะอำ โดยมีเจ้าหน้าที่รวม 90 คน ร่วมรับฟัง และซักถามประเด็นที่สงสัย จากนั้นเข้าดูสถานที่เลี้ยงม้า ให้คำแนะนำในการติดตั้งมุ้ง การดูแลม้า ในพื้นที่ชุมชนบ่อแขม และชุมชนบางควาย ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เน้นย้ำการติดตั้งมุ้ง ขนาดตามุ้งต้องมี 32 ตาต่อตารางนิ้วขึ้นไป เป็นมุ้งสีขาวที่ใช้สำหรับปลูกผัก มุ้งคนก็ได้ แต่จะไม่ทนทาน จึงจะป้องกันริ้นพาหะนำโรคได้ โดยในรัศมี 50 กิโลเมตรจากจุดเกิดโรค อาจารย์แจ้งว่า จะมีมุ้งสนับสนุน ให้เจ้าของม้าแจ้งขนาดของคอกม้า และจำนวนม้ากับเจ้าที่ของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี เพื่อรับมุ้งโดยเร็วที่สุด

              2. เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์เขต 7 ติดตามสถานการณ์และมาตรการการป้องกันโรค ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรีสนับสนุนยา Etofenprox ยา Cypermethrin และรถแมคโครสำหรับขุดหลุมฝัง รวมทั้งมีจิตอาสากลุ่ม The Stallion Horse Riding Thailand อำเภอหนองหญ้าปล้อง ช่วยสนับสนุนการควบคุมโรคที่อำเภอชะอำด้วย
3. พบม้าตายเข้านิยามของโรค AHS 1 ตัว (สะสม 9 ฟาร์ม ตายสะสม 14 ตัว)
4. ไม่พบม้าป่วย ผิดปกติตามคำนิยามของโรค AHS (ป่วยสะสม 14 ตัว)
5. สำรวจฟาร์มม้าสะสมจำนวน 131 ราย จำนวนม้าทั้งหมด 1,028 ตัว รวมม้าของสถานเสาวภา
6. ด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี ตรวจสอบยานพาหนะ และพ่นยาฆ่าเชื้อ 67 คัน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!