อยุธยา-ส่งมอบตู้คัดกรองเชื้อระบบทางเดินหายใจ โควิด-19

อยุธยา-ส่งมอบตู้คัดกรองเชื้อระบบทางเดินหายใจ โควิด-19

ภาพ/ข่าว:นพดล บำเพ็ญสัตย์ / นราเอก ตันศิริ

ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีส่งมอบตู้คัดกรองเชื้อระบบทางเดินหายใจ โควิด-19 ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสนมหาเถร)

          เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 2 กันยายน 2563 ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสนมหาเถร) อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา นายยงยศ ผลธนาวัฒน์ ผู้บริหารบริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ในพิธีส่งมอบตู้คัดกรองเชื้อระบบทางเดินหายใจ โควิด-19 ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสนมหาเถร) อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายแพทย์ประเสริฐ ตั้งจิตธรรม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสนมหาเถร) มี นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมเป็นสักขีพยาน
          นายยงยศ ผลธนาวัฒน์ ผู้บริหารบริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า กลุ่มบริษัทในเอสซีจี ที่ดำเนินธุรกิจในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมเป็นสวนหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยการมอบตู้คัดกรองเชื้อระบบทางเดินหายใจ โควิด-19 เพื่อใช้เป็นสาธารณประโยชน์กับประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งจากถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ที่มีความเสี่ยงที่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบการคัดกรองโรค มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น นำมาสู่ปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อใช้ป้องกันและควบคุมโรค รวมถึงความเสี่ยงในการติดชื้อที่เพิ่มขึ้นของบุคลากรทางการแพทย์ ทาง เอสซีจี ได้ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมมานับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยดำเนินกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในหลายด้าน ซึ่งหนึ่งในกิจกรมที่สำคัญนั้น ได้แก่ การส่งเสริมด้านสาธารณสุขซึ่งถือเป็นปัจจัยพื้นฐานของการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชุมชนและสังคม และในโอกาสนี้ เอสซีจี จึงส่งมอบตู้คัดกรองเชื้อระบบทางเดินหายใจ โควิด-19 ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสนมหาเถร) อำภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธย จำนวน 1 ตู้ และน้ำยานาโน ซิลเวอร์นาโน จำนวน 70 ลิตร ที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ 99.99% ทั้ง แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และเชื้อโรคโดยการสัมผัสเชื้อ และหากมีเชื้อตกค้างหรือมีเชื้อโรคเข้ามาใหม่ซิลเวอร์ยังทำงานต่อไปเมื่อเปรียบเทียบกับแอลกอฮอล์ใช้แล้วหมดไปทันที มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าแอลกอฮอล์และมีประสิทธิภาพดีกว่าใช้กับเชื้อโรคที่กลายพันธุ์ได้หลากหลายเนื่องจากเป็นการใช้ประจุเงินโจมตีผนังเซลล์ของเชื้อโรคจึงนิยมใช้ทางการแพทย์อย่างแพร่หลาย ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นสาธารณะประโยชน์ในการคัดกรองโรคให้กับผู้ที่มีความเสี่ยง และลดการแพร่กระจายของโรค ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!