ระยอง-ร่างมูลนิธิกองทุนโครงการถมทะเล 1,000 ไร่

ภาพ/ข่าว:อัจฉรา วิเศษศรี

กนอ.จัดทำร่างมูลนิธิกองทุนหลักประกันความเสียหายฉุกเฉินและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในรัศมี 5 กม. โครงการถมทะเลท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 พื้นที่ 1000 ไร่

          น.ส.นลินี กาญจนามัย ผู้อำนวยการสำนักงานท่าเรือนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง เปิดเผย ความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 เนื้อที่ 1,000 ไร่ ซึ่งจะใช้ประโยชน์ในพื้นที่จำนวน 550 ไร่ ขณะนี้ได้ลงนามในสัญญาไปแล้ว และได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม เรื่องสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังไม่สามารถขุดลอกและถมทะเลได้เพราะว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงรายงาน ที่จะต้องทำให้ถูกขบวนการ คาดว่าปี 2564 จะเริ่มขุดลอกและถมทะเลได้ ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ปี และในระยะเวลาอีก 3 ปี ในการก่อสร้างท่าเทียบเรือ LNG และในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมระยะเวลาทั้งหมด 6 ปี

          แต่สิ่งที่สำคัญ คือต้องทำให้พี่น้องชุมชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุดหรือไม่ได้รับผลกระทบเลย ต้องมีการกำกับให้เป็นไปตามข้อกฏหมายและนอกจากนั้นก็ต้องทำด้านระเบียบข้อบังคับในเรื่องมูลนิธิกองทุนให้เป็นระเบียบข้อบังคับที่เป็นประโยชน์ที่สุดเหมาะสมที่สุดการกำกับจะมีคณะทำงานกำกับตรวจติดตาม ตามรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมมีมาตรการในการตรวจสอบติดตามอยู่สม่ำเสมอเชื่อว่ามาตรการต่างๆจะทำให้ประชาชนได้รับทราบความคืบหน้าและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น

          มูลนิธิเพื่อกองทุนหลักประกันความเสียหายฉุกเฉินและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนมีแหล่งที่มาของแหล่งเงินทุนสมทบเข้ามูลนิธิดังต่อไปนี้ คือ กองทุนหลักประกันความเสียหายฉุกเฉินในระยะก่อสร้างจากผู้รับเหมาถมทะเลเป็นผู้สมทบเงินเข้ากองทุนร้อยละ 0.20 ของมูลค่าโครงการ ระยะดำเนินการเมื่อมีการใช้ประโยชน์พื้นที่ถมทะเลผู้ประกอบการท่าเรือเป็นผู้สมทบเงินเข้ากองทุนเป็นรายปีในอัตรา 2,000 บาท ต่อการใช้พื้นที่หลังท่า 1 ไร่ ส่วนกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนแบ่งตามการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ซึ่งระยะก่อสร้างผู้รับเหมาเป็นผู้สมทบเงินเข้ากองทุนร้อยละ 0.80 ของข้อมูลโครงการ และใน ระยะดำเนินการเมื่อมีการใช้ประโยชน์พื้นที่ถมทะเลผู้ประกอบการท่าเรือเป็นผู้สมทบเงินเข้ากองทุนรายปีในอัตรา 8,000 บาท ต่อการใช้พื้นที่หลังท่า 1 ไร่

          ซึ่งกรณีเกิดความเสียหายขึ้นในระยะก่อสร้างให้มูลนิธินำเงินสำรองนี้เยียวยาเหตุการณ์หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบก่อน หลังจากนั้นจึงดำเนินการทางกฏหมายหาผู้รับผิดชอบในภายหลังเพื่อนำเงินจากผู้รับผิดชอบมาชดใช้คืนเงินสำรองที่ได้สำรองจ่ายไปก่อน สำหรับกองทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนร้อยละ 60 ของเงินสมทบกองทุนทั้งหมดจัดสรรให้กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านในบริเวณพื้นที่ศึกษาโครงการ 10 กลุ่ม ร้อยละ 30 ของเงินสมทบกองทุนทั้งหมดจัดสรรให้กับชุมชนในรัศมี 5 กิโลเมตรจากที่ตั้งโครงการ

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/